อ่วม! ไต้ฝุ่นคัลแมกีถล่มภาคกลางของฟิลิปปินส์ ดับทะลุ 100 ราย
พายุฟงวองได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในภาคกลางของฟิลิปปินส์ในช่วงสองวันที่ผ่านมา โดยมีฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลให้รถยนต์จำนวนมากได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านถูกโคลนทับจนไม่สามารถใช้งานได้ มีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 26 ราย นอกจากนี้พายุนี้จะเคลื่อนเข้าสู่ภาคอีสานของไทย บริเวณ จ.อุบลราชธานีในวันพรุ่งนี้อีกด้วย
คัลแมกีทำฝนถล่มฟิลิปปินส์ เมืองเซบูแทบไม่เหลือเค้าเดิม
หลังพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีผ่านพ้นไป ก็ทิ้งร่อยรอยแห่งความเจ็บปวดเอาไว้ เมืองเซบู พื้นที่ประสบภัยรุนแรง บ้านเรือนพังเสียหายยับเยินจนไม่เหลือเค้าเดิม ถนนหนทางเต็มไปด้วยโคลนและซากปรักหักพัง รถยนต์หลายคันถูกน้ำพัดมากองซ้อนทับกัน เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ได้พัดขึ้นฝั่งบริเวณตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ ก่อให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ บ้านชั้นเดียวในเมืองเซบูถูกน้ำท่วมมิดหลังคา ชาวบ้านต้องรีบอพยพหนีเอาชีวิตรอด โดยไม่ทันได้เก็บข้าวของใดๆ เมื่อพายุสงบลง ก็เหลือเพียงบ้านที่จมอยู่ในโคลน ทางการเผยว่า บางพื้นที่มีโคลนหนาถึง 30 เซนติเมตร
เมืองตาลีไซ เผชิญมหันตภัยครั้งรุนแรง ชาวบ้านเดือนร้อนหนัก
เมืองตาลีไซ ซึ่งอยู่ใกล้เคียง ก็ได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน บ้านเรือนริมแม่น้ำพังถล่มลงทั้งแถบ เหลือเพียงซากปรักหักพัง ถนนหนทางเต็มไปด้วยโคลนตม มหันตภัยน้ำท่วมที่รุนแรงและมาเร็ว จนผู้คนตั้งตัวไม่ทัน ได้กวาดล้างทุกสิ่งไปในพริบตา บ้านชั้นเดียวแทบทั้งเมืองถูกน้ำท่วมมิด ประชาชนทั่วประเทศราว 7 แสนคนได้รับผลกระทบ เมื่อเห็นสภาพบ้านเรือนที่พังย่อยยับ หลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
==ชาวบ้านเมืองตาลีไซ ประเทศฟิลิปปินส์==
พวกเราสูญเสียทุกสิ่ง
ไม่มีบ้าน และต้องการความช่วยเหลือ
ตอนนี้ไม่มีที่หลับนอน ไม่มีอาหาร ไม่มีอะไรเลย
เหลือเพียงเสื้อผ้าขาดๆ เท่านั้น
เวียดนามเตรียมรับมือคัลแมกีถล่ม จับตา 7 พ.ย. ถึงไทย!
ก่อนพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีจะพัดขึ้นฝั่ง 24 ชั่วโมง เมืองเซบูมีปริมาณน้ำฝนสูงเกินค่าเฉลี่ย ทางการสั่งอพยพประชาชนล่วงหน้า 200,000 คน หลังไต้ฝุ่นขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พบผู้เสียชีวิตในเมืองเซบูแล้วอย่างน้อย 35 ราย ทั้งนี้ คาดว่าไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่งบริเวณภาคกลางของเวียดนามในวันนี้ถึงพรุ่งนี้ ก่อนอ่อนกำลังลงและเคลื่อนเข้าสู่ภาคอีสานของไทย บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 7 พ.ย. เตือนประชาชนเตรียมรับมือ
