ทรัมป์ประกาศทดลองระเบิดนิวเคลียร์อีกครั้ง เสี่ยงตึงเครียดทั่วโลก
ก่อนการพบปะกับ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำจีน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้กลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง หลังห่างหายไปนานถึง 33 ปี โดยทำเนียบขาวระบุว่า "เป็นการทดสอบประสิทธิภาพของอาวุธนิวเคลียร์" ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการรักษาความมั่นคงของชาติ ขณะที่องค์การสหประชาชาติเตือนว่า สถานการณ์ความเสี่ยงด้านนิวเคลียร์ในปัจจุบันอยู่ในระดับสูง การยกระดับปฏิบัติการใดๆ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด และก่อให้เกิดวิกฤติร้ายแรงได้
ก่อนเดินทางไปเมืองปูซานเพื่อพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย สั่งการให้กระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) “ฟื้นการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ในระดับเดียวกันกับคู่แข่ง” ขณะเดียวกัน รองประธานาธิบดี ไมค์ แวนซ์ ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า การทดลองเป็นส่วนหนึ่งของการรับประกันให้คลังอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐมีประสิทธิภาพในระยะยาว
==ไมค์ แวนซ์ // รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ==
การตรวจสอบให้อาวุธนิวเคลียร์ทำงานได้ตามปกติ
เป็นส่วนสำคัญของความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
และนี่คือเหตุผลของการทดลอง
หากสหรัฐฯกลับมาทดลองระเบิดนิวเคลียร์ อาจจุดชนวน “แข่งขันนิวเคลียร์รอบใหม่”
นักวิชาการระบุว่า หากสหรัฐฯ เลือกที่จะกลับมา “ทดลองระเบิดนิวเคลียร์” หรือขยายการทดสอบในรูปแบบจำลอง อาจถูกตีความว่าเป็นสัญญาณเชิงยุทธศาสตร์ที่แข็งกร้าวต่อรัสเซียและจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การเริ่มต้นแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง
สหประชาชาติวิตกความเสี่ยง สั่งห้ามการทดสอบนิวเคลียร์
องค์การสหประชาชาติย้ำว่า “ความเสี่ยงด้านนิวเคลียร์ทั่วโลกอยู่ในระดับน่ากังวล” และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการดำเนินการใด ๆ ที่อาจนำไปสู่การเข้าใจผิด การยกระดับความขัดแย้ง หรือก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ร้ายแรง พร้อมเน้นย้ำว่า “การทดสอบนิวเคลียร์ไม่ควรถูกอนุญาตในทุกกรณี”
ทั่วโลกมี 9 ประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ เกือบ 90% อยู่ในสหรัฐและรัสเซีย
ทั่วโลกมี 9 ประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ โดยประมาณ 90% ของหัวรบนิวเคลียร์ทั้งหมดกว่า 12,200 ลูก อยู่ในสหรัฐฯ และรัสเซีย ขณะที่จีนมีอัตราการขยายคลังอาวุธนิวเคลียร์เร็วที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนอินเดียและปากีสถานยังคงคานอำนาจกันเอง ขณะที่อิสราเอลและเกาหลีเหนือถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในระดับภูมิภาค
==วิลเลียมส์ // ผู้อำนวยการศูนย์ CSIS==
หากสหรัฐฯ กลับมาทดสอบนิวเคลียร์
ประเทศอื่นที่มีอาวุธนิวเคลียร์ก็อาจทำตาม
และประเทศที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดคือ “จีน”
ผู้เชี่ยวชาญ: หากข้อห้ามถูกทำลาย อาจแข่งขันสะสมอาวุธมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญเตือน: หาก “ข้อห้ามการทดสอบนิวเคลียร์” ถูกทำลาย จะเพิ่มความเสี่ยงของการแข่งขันสะสมอาวุธรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจีนซึ่งมีประวัติการทดสอบนิวเคลียร์น้อย อาจได้เปรียบในการเก็บข้อมูลเชิงเทคนิคจากการทดสอบรอบใหม่ และเร่งขยายขีดความสามารถทางทหารเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ
