พลาสติไซเซอร์ในร่างกายของคนไต้หวันค่อนข้างสูง

ล่าสุดมีงานวิจัยบ่งชี้ว่า ในร่างกายชาวไต้หวัน มีสารพลาสติไซเซอร์ปนเปื้อนสูงกว่าประชากรของประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆประมาณ 2-7 เท่า สาเหตุหลักมาจากการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะและบริโภคสารพลาสติไซเซอร์นี้เข้าไป ซึ่งสารดังกล่าวนี้จะเพิ่มอัตราเสี่ยงในการมีบุตรยากและความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
ต่างชาติวิจัย อาจเกิดจากผิวกระทะเทฟล่อนปล่อยออกมา
แม่บ้านหลายคนชอบใช้กระทะเทฟล่อนในการทำอาหาร เพราะสะดวก และง่ายต่อการล้าง อย่างไรก็ตาม หากพื้นผิวกระทะเสียหายไม่ควรใช้ซ้ำอีก ผลการวิจัยจากต่างประเทศกล่าวว่า หน้ากระทะเทฟล่อที่กระเทาะร่อนอาจปล่อยสารเคมีที่เป็นพิษ คนกินเป็นเวลานานอาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง มีบุตรยากและอาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก
==เซียว อี หลุน // รองผอ. สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร ม.การแพทย์ไทเป==
กระทะที่พื้นผิวเสียหายพวกนี้
อาจจะมีตกค้างอยู่บ้าง
สารกลุ่มพีเอฟเอเอส
สิ่งที่กังวลคือความเสี่ยงในระยะยาว
อาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก
การใช้เครื่องครัวที่ไม่เหมาะสม ส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมน
งานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การใช้เครื่องครัวและภาชนะอย่างไม่เหมาะสม มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสารรบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ และส่งผลต่อสุขภาพ นอกจากกระทะเทฟล่อนแล้ว ควรหลีกเลี่ยง เขียงพลาสติกที่มีรอยขีดข่วน ภาชนะเมลามีนในการบรรจุอาหารร้อน ใช้พลาสติกห่ออาหารตอนอุ่นในไมโครเวฟ และห้ามใช้ถุงพลาสติกเพื่อบรรจุอาหารร้อน
ในร่างกายชาวไต้หวันมีสารพลาสติไซเซอร์สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว 2-7 เท่า
งานวิจัยระบุว่า ในร่างกายชาวไต้หวันมีสาร DEHP สูงกว่าประชากรของประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆประมาณ 2-7 เท่า
==เซียว อี หลุน // รองผอ. สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร ม.การแพทย์ไทเป==
จากสมองไปจนถึงต่อมไทรอยด์ของเรา
รังไข่ของผู้หญิงหรืออัณฑะของผู้ชาย
จะได้รับผลกระทบทั้งหมด
ใช้ภาชนะแก้ว หลีกเลี่ยงภาชนะพลาสติกสำหรับใส่อาหารร้อน
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยด้านอาหารแนะนำให้ประชาชนใช้ภาชนะแก้ว หลีกเลี่ยงการใช้แบบใช้แล้วทิ้ง และหลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะพลาสติกเก็บอาหารร้อน เพื่อลดสารรบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ ยังเป็นการรับประทานอาหารอย่างปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ