ระดับน้ำในเขื่อนธรรมชาติของแม่น้ำลี่อู้ซีขึ้นสูง ห่างสันเขื่อนไม่ถึง 5 ม.

ดินหินถล่มปิดกั้นทางแม่น้ำลี่อู้ บริเวณช่องเหยี่ยนจื่อโข่ว ในอุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อ ส่งผลให้ทะเลสาบธรรมชาติแห่งใหม่ แม้ในขณะนี้จะยังไม่เกิดอันตราย แต่อิทธิพลจากลมมรุสมและกระแสลมรอบนอกของพายุไต้ฝุ่น ซึ่งส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก ทางเทศบาลได้อพยพชาวบ้านกว่า 900 คนออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ด้านอุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อก็ยังคงปิดให้บริการ เพื่อความปลอดภัย
รัฐบาลกลางยันไม่มีสัญญาณอันตรายฉับพลันจากสันเขื่อนพังในระยะนี้
ดินโคลนและหินที่ถล่มลงมาปิดทางน้ำ ทำให้เกิดเป็นเขื่อนธรรมชาติบนแม่น้ำลี่อู้ซี (立霧溪) ในอุทยานแห่งชาติทาโรโกะ ที่มีขนาด 10.5 เฮกตาร์ ยาว 2,300 เมตร จากการเฝ้าสังเกตพบว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนปัจจุบันอยู่ห่างสันเขื่อนเพียง 5 เมตรเท่านั้น สันนิษฐานว่าเขื่อนดังกล่าวอาจพังลงมาหรือน้ำทะลักสันเขื่อนในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลกลางยืนยันว่า ปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณอันตรายฉับพลันแต่อย่างใด
==หลี่เมิ่งเหยียน//รอง ผอ. หน่วยประสานงานศูนย์ CEOC==
ขณะนี้ น้ำทั้งหมดยังไหลกลับสู่แม่น้ำลี่อู้
ดังนั้น สำหรับทั้งแม่น้ำลี่อู้รวมถึงชุมชนบริเวณตอนล่างของแม่น้ำ
ยังไม่มีความเสี่ยงใดๆ ที่เกี่ยวข้อง
แม้ความเสี่ยงเกิดดินถล่มไม่มาก แต่สั่งอพยพก่อนเพื่อความปลอดภัย
อิทธิพลรัศมีพายุไต้ฝุ่นเฟิงเสินประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ชาวฮัวเหลียนต้องเฝ้าระวังภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นจากฝนตกหนัก รวมถึงความเสี่ยงที่เขื่อนธรรมชาติอาจพังลงมาด้วย ขณะที่รัฐบาลเน้นย้ำว่า แม้น้ำในแม่น้ำจะล้นสันเขื่อนแต่มีโอกาสไม่สูงนักที่จะเกิดดินถล่มยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ได้มีการอพยพประชาชนกว่า 900 คน ในพื้นที่ตอนล่างของแม่น้ำเพื่อความปลอดภัยแล้ว
ปชช.บางส่วนกางเต็นท์หลบภัย ก่อนย้ายหนีตามคำแนะนำ
ช่วงเช้าวานนี้ (19 ต.ค. 68) กำนันและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ชาวบ้านกลับบ้านชั่วคราว แต่ชาวบ้านบางส่วนไม่ยอมอพยพไปยังศูนย์พักพิง แต่กลับตั้งเต็นท์หลบภัยบนสนามบาสเกตบอลในหมู่บ้านฟู่ซื่อ (富世村) เนื่องจากฝนที่ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงยินยอมให้เจ้าหน้าที่จัดรถอำนวยความสะดวกในการอพยพออกมา
==นายเย่//ชาวบ้าน==
ทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน 5 วันไม่ได้ หิวตายแน่
(พา)ไปศูนย์อพยพ ศูนย์อพยพก็ไม่สะดวก
ผู้ใหญ่บ้านประกาศเตือนชาวบ้านให้อพยพโดยด่วน
ผู้ใหญ่บ้านยังคงประกาศเตือนเสียงตามสายให้ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน โดยหากในอนาคตสภาพอากาศดีขึ้น หินผาทั้งสองข้างทางมั่นคงแล้ว จึงจะมีการเริ่มลงมือแก้ไขปัญหาเขื่อนธรรมชาติ