เกิดเหตุดราม่าหลัง MRT ไทเป เปลี่ยนชื่อเรียก "Priority seat"
เมื่อวันที่ 29 กันยายน เกิดกรณีพิพาทบนรถไฟฟ้า MRT ไทเป โดยหญิงสูงวัยรายหนึ่ง ได้ใช้กระเป๋าฟาดชายที่นั่งอยู่ในที่นั่งสำรอง เพราะต้องการให้ชายสละที่นั่งให้ แต่กลับถูกชายดังกล่าวถีบสวน โดยคลิปเหตุการณ์ถูกแชร์อย่างแพร่หลาย และกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายประเทศ ล่าสุด มีรายงานว่า หญิงสูงวัย เป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ซึ่งถูกออกหมายจับ เช้าวันนี้ (1 ต.ค. 68) ถูกตำรวจควบคุมตัวแล้ว
อาม่าแกว่งถุงหาเสี้ยนหวังให้ ผดส. สละที่นั่ง สุดท้ายโดนถีบกระเด็น
เกิดเหตุหญิงรายหนึ่งใช้กระเป๋าฟาดชายที่นั่งอยู่ในที่นั่งสำรอง หมายให้สละที่นั่งให้ตน แต่ขณะที่กำลังจะฟาดเป็นครั้งที่ 2 ชายคนดังกล่าวได้ใช้เท้ากันไว้ ก่อนจะถีบหญิงชรากระเด็นไปอีกข้าง
ขณะเกิดเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างพากันบันทึกภาพและนำไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์
ปมวิวาทที่นั่งพิเศษบน MRT ทั้งสองต่างมีความผิดตามกฎหมาย
เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเนื่องจากแย่งที่นั่งสำรองนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 กันยายน (2568) ด้านบริษัทรถไฟฟ้า MRT ไทเปเปิดเผยว่า ที่นั่งสำรองมีไว้สำหรับผู้โดยสารที่มีความจำเป็น ขณะที่ตำรวจรถไฟฟ้าเผยว่า ทั้งสองได้กระทำความผิดฐานละเมิดกฎหมายรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม ซึ่งจะมีการสืบสวนประวัติผู้กระทำผิดต่อไป
ปมวิวาทที่นั่งพิเศษ ผดส. ชี้ อยู่ที่มารยาท ไม่เกี่ยวอายุ
อันที่จริงแล้วขณะเกิดเหตุ ยังมีที่ว่างอยู่อีกหลายที่ จึงทำให้ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า หญิงชราคนดังกล่าวจงใจหาเรื่อง นอกจากนี้คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวยังถูกแชร์ว่อนบนอินเตอร์เน็ต ทำให้เป็นที่สนใจไปทั่วโลก เมื่อตั้งคำถามว่าหญิงชรามีสิทธิ์ขอให้สละที่นั่งหรือไม่ ผู้โดยสารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับมารยาทที่ถูกบ่มเพาะมา ไม่ได้ขึ้นกับอายุแต่อย่างใด
==คุณเซี่ย//ผู้โดยสาร==
ปกติถ้าคนที่สละเขาก็จะสละ คนที่ไม่สละเขาก็ไม่สละ
ก็ยังมีคนประเภทนั้นอยู่
เพราะมันสับสน มีชื่อเรียกที่นั่งหลายอย่าง
ทำให้หลายคนรู้สึกว่า โอเค ฉันนั่งได้
==คุณหลิน//ผู้โดยสาร==
ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นผู้สูงอายุเสมอไป
บางคนป่วย มีปัญหาเรื่องขา หรือรู้สึกไม่สบาย
นั่นคือคนที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ที่นั่งนี้จริง ๆ
เปลี่ยนชื่อ "Priority seat" ครอบคลุม ผดส.หลายประเภท
หลังเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับที่นั่งสำรองอยู่บ่อยครั้ง สภานิติบัญญัติไต้หวันได้เปลี่ยนชื่อ “ที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษ” เป็น “ที่นั่งสำหรับผู้ที่มีความจำเป็น” ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา (2568) โดยไม่จำกัดสิทธิ์เฉพาะผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือเด็กอีกต่อไป ด้านกระทรวงคมนาคมเผยว่า ผู้โดยสารที่ไม่สบายหรือมีความต้องการพิเศษซึ่งไม่อาจสังเกตได้จากลักษณะภายนอก (หรือเรียกว่า“ผู้มีความต้องการพิเศษแฝง”) สามารถติดสติ๊กเกอร์ “ผู้ที่มีความต้องการใช้ที่นั่งพิเศษ” ที่ทางกระทรวงจัดเตรียมไว้ ทั้งนี้เพื่อง่ายต่อการสังเกตของผู้โดยสารท่านอื่น
