คนรุ่นใหม่ไต้หวันใน กทม. ร่วมเผยแพร่วัฒนธรรมชนชาวจีน

ไต้หวันเริ่มส่งออกชามายังประเทศไทยตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 จนถึงวันนี้ยังคงสามารถพบร่องรอยของชาไต้หวันได้ในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ และในปัจจุบันยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่จากไต้หวันที่ตั้งใจเดินทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมชา แนะนำรสชาติของชาไต้หวัน และประวัติการค้าชาระหว่างไต้หวันและไทย
เคอซุ่นเย่า (柯舜耀) เถ้าแก่ร้านชาที่มุ่งเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาตำรับไต้หวันในกรุงเทพ ได้ร่วมมือกับร้านขายยาจีน พัฒนาชาสูตรพิเศษที่ผสานสมุนไพรจีนเข้ากับชาไต้หวัน ถ่ายทอดรสชาติชาไต้หวันอันเป็นเอกลักษณ์ให้คนไทยได้รู้จัก
==เคอซุ่นเย่า//ผู้เผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มชาไต้หวัน==
พัฒนาสู่การท่องเที่ยวเชิงความรู้
ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวไต้หวันเอง
สามารถย้อนระลึกถึงความทรงจำที่เคยมี
ไต้หวันส่งออกชาเป็นจำนวนมาก
กระทั่งประวัติศาสตร์ช่วงที่ส่งออกชามายังประเทศไทย
กลิ่นหอมชาไต้หวันตลบอบอวลในย่านเมืองเก่ากรุงเทพฯ
ไต้หวันเริ่มส่งออกชามายังประเทศไทยตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 จนกระทั่งปัจจุบัน ก็ยังสามารถพบร่องรอยของชาไต้หวันในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพมหานคร ร้านชาอิวกี่ ที่มีต้นกำเนิดจากมณฑลฝูเจี้ยน ได้ก่อตั้งขึ้นในกรุงเทพฯเมื่อปี ค.ศ.1890 ก่อนจะขยายสาขาไปยังย่านต้าเต้าเฉิง (大稻埕) ของไต้หวันหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปัจจุบันยังคงดำเนินธุรกิจชาไต้หวันอยู่ในกรุงเทพฯ
โคมไฟที่ประดิษฐ์เอง ประดับสองข้างทาง ส่องแสงเสน่ห์วัฒนธรรมร่วม
ขณะเดียวกันที่ชุมชนเลื่อนฤทธิ์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับถนนเยาวราช ยังสามารถพบเห็นโคมไฟที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ประดับเรียงราย จากความร่วมมือระหว่างชาวบ้านในท้องที่และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ด้านศิลปินชาวไต้หวันที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานได้เชิญชวนให้ชาวไทยเชื้อสายจีนมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์การเติบโตของตนเองผ่านผลงานดังกล่าว วัฒนธรรมการดื่มชาแบบดั้งเดิมของไต้หวัน ผนวกกับวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมและจีนสมัยใหม่ รวมถึงเหล่าเยาวชนไต้หวันในประเทศไทย ทำให้คนไทยได้เห็นมุมมองที่หลากหลายของไต้หวันมากยิ่งขึ้น