สตม.รวบ Tiktoker จีนใช้วีซ่าธุรกิจเข้าไต้หวัน แต่โพสต์คลิปเที่ยว

มาดูกรณี Tiktoker ชาวจีนใช้วีซ่าธุรกิจเข้ามาไต้หวันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าโพสต์คลิปเที่ยวรอบเกาะไต้หวัน ทั้งนี้เนื่องจากจีนยังไม่เปิดการท่องเที่ยวให้ไต้หวัน การกระทำดังกล่าวจึงถือว่าผิดวัตถุประสงค์วีซ่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงจับกุมข้อหาให้ข้อมูลเท็จและเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
==Tiktoker จีน // เจ้าของช่อง 文雷在路上==
ตกใจหมดเลย
เน็ตไอดอลจีนใช้วีซ่าธุรกิจเข้าไต้หวัน แต่โพสต์คลิปเที่ยวรอบเกาะ
ชายที่ตกใจเสียงสัญญาณเตือนภัยรายนี้ คือเน็ตไอดอลชาวจีน เจ้าของบัญชี TikTok ชื่อ "เหวินเล่ยจ้ายลู่ซ่าง" (文雷在路上) ซึ่งเดินทางเข้าไต้หวันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยวีซ่าธุรกิจ แต่กลับโพสต์คลิปเดินเท้าเที่ยวรอบเกาะไต้หวัน โดยช่วงเวลาดังกล่าวตรงกับการซ้อมรบ "ฮั่นกวง" พอดี ทำให้มีแฟนคลับทหารสังเกตเห็นว่า เส้นทางของเขาทับซ้อนกับจุดยุทธศาสตร์หลายแห่ง จึงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ในการเดินทาง หลังถูกร้องเรียน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวัน ก็ได้ทำการจับกุม ในข้อหาเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย พร้อมควบคุมตัวผู้บริหารบริษัทอีคอมเมิร์ซในเมืองผิงตง ซึ่งเป็นผู้ช่วยยื่นเอกสารเท็จเพื่อขอวีซ่าเข้าประเทศด้วย
==สวีอวี้เฉวียน // หัวหน้าอัยการ สำนักงานอัยการผิงตง==
จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า
(ผู้บริหารบริษัทอีคอมเมิร์ซ) นายเซี่ย ร่วมวางแผนกับ
ผู้บริหารบริษัทแห่งหนึ่งในจีน
โดยใช้ข้อมูลเท็จช่วยเหลือชาวจีนหลายราย
ยื่นขอวีซ่าธุรกิจเข้ามาในไต้หวัน
ตั้งแต่ ปี 67 - มิ.ย. 68 มีชาวจีนถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าไต้หวันเกิน 16,000 คน
ตามสถิติของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายนปีนี้ (2568) มีชาวจีนเดินทางเข้ามายังไต้หวันด้วยวัตถุประสงค์ "แลกเปลี่ยนธุรกิจ" เช่น การบรรยาย การฝึกอบรม และการประชุม รวม 36,616 คน ขณะที่ วัตถุประสงค์ "แลกเปลี่ยนวิชาชีพ" เช่น การศึกษาศาสนา และการบรรยายวิชาการ มีจำนวน 6,709 คน นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปัจจุบัน มีชาวจีนถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าไต้หวันแล้วกว่า 16,699 คน โดยทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะยังคงตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป
==หวงอวี๋เจี๋ย // หัวหน้าฝ่ายงานเข้า-ออกประเทศ สตม. ไต้หวัน ==
(ชาวจีน) ใช้ข้อมูลเท็จยื่นขอเข้าไต้หวัน
ถูกส่งฟ้องดำเนินคดี
เมื่อถูกจับ จะถูกจำกัดสิทธิ
ห้ามเข้าไต้หวันเป็นเวลา 2 ถึง 5 ปี
บ.ทัวร์+ตัวแทนยื่นเรื่อง ผิด กม. โทษเบาเกินไป ทำให้ยับยั้งได้ยาก
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสนับสนุนการแลกเปลี่ยนที่ถูกต้องตามกฎหมายระหว่างไต้หวันและจีน แต่ปัจจุบันบทลงโทษต่อบริษัททัวร์และตัวแทนที่กระทำผิดยังรุนแรงไม่พอ จึงเสนอให้รัฐพิจารณาแก้ไขกฎหมาย เพื่อยับยั้งการกระทำผิด และปิดช่องโหว่ด้านความมั่นคงของชาติ