โรงไฟฟ้าไทจงเปิดกำลังผลิต 90% ก.อนุรักษ์ฯ สงสัยไฟไม่พอ?

หลังเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งที่ 3 ปลดประจำการ ก็เกิดคำถามว่าการใช้พลังงานความร้อนผลิตกระแสไฟฟ้าจะทำให้ปัญหามลพิษทางอากาศรุนแรงขึ้นหรือไม่? ซึ่งกองอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนครไทจง ระบุว่า ขณะนี้โรงไฟฟ้าไทจงซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 10 เครื่อง โดยในช่วงนี้มี 9 เครื่องที่เปิดใช้งานอยู่ หากเผชิญความเสี่ยงว่าจะขาดแคลนไฟฟ้า จึงจะเปิดใช้งานแบบเต็มกำลัง
==เฉินหงอี้//ผอ.กองอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นครไทจง==
เรากำลังสงสัยว่าไฟฟ้าไม่พอจริงๆ หรือไม่
ถ้าไม่พอจริงๆ การไฟฟ้าไต้หวันต้องพูดความจริงออกมา
ปริมาณการใช้ถ่านหินพุ่ง คุณภาพอากาศภาคกลางยังปกติดี
ปริมาณการใช้ถ่านหินของวันที่ 16 พฤษภาคม ก่อนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แห่งที่ 3 จะหยุดทำงาน อยู่ที่ 32,300 ตัน แต่ในวันที่ 19 พฤษภาคม เพิ่มขึ้นเป็น 46,400 ตัน ถือเป็นวันที่มีการใช้ถ่านหินสูงที่สุดของปีนี้ แม้ข้อมูลจากเว็บไซต์ดัชนีคุณภาพอากาศของกระทรวงสิ่งแวดล้อมไต้หวันจะชี้ว่า คุณภาพอากาศในภาคกลางยังอยู่ในระดับปกติถึงดี แต่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมองว่า ข้อมูลคุณภาพอากาศในช่วงนอกฤดูมลพิษนั้นไม่มีความหมายมากนัก สิ่งที่น่ากังวลคือคุณภาพอากาศในช่วงฤดูมลพิษต่างหาก
==สวีซินซิน//ประธานสมาพันธ์ตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาล==
สิ่งที่เรากังวล คือ
ต่อไป ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
และอาจส่งผลให้ PM 2.5 และโอโซนเพิ่มสูงขึ้นตามมาด้วย
หลังใช้ก๊าซผลิตไฟฟ้า จะถอดเครื่องผลิตไฟฟ้าถ่านหินบางส่วนออก
การไฟฟ้าไต้หวัน (Taipower) ระบุว่า จะเร่งลดการใช้ถ่านหินอย่างต่อเนื่อง โดยการปล่อยมลพิษทางอากาศในปีที่แล้วลดลงถึง 76% เมื่อเทียบกับปี 2559 ขณะเดียวกัน คาดว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานก๊าซรุ่นใหม่จะเริ่มใช้งานในช่วงครึ่งปีหลัง และจะปลดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากถ่านหินบางตัวออกหรือใช้เป็นเครื่องสำรองแทน