ส่งกลับ 55 คนไต้หวัน จากฐานแก๊งค์คอลฯไทย-เมียนมา 25 รายมีหมายจับ

ชาวไต้หวัน 55 คนในฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย–เมียนมา ถูกต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกง ทั้งหมดถูกส่งตัวกลับไต้หวันแล้วในเช้าวันนี้ (7 พ.ค. 68) จากการสอบสวนพบว่า 25 คนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของไต้หวัน ส่วนอีก 30 คน ยังอยู่ระหว่างสอบสวนว่าเดินทางไปด้วยความสมัครใจหรือถูกหลอกให้ไปทำงาน

ส่งกลับชาวไต้หวัน 55 ราย จากคอลเซ็นเตอร์ไทย-เมียนมา ดำเนินคดีต่อ

หน่วยปฏิบัติการพิเศษรับตัวชาวไต้หวันจำนวนมากจากภูมิภาคอาเซียนกลับประเทศ จากนั้นส่งตัวไปยังกรมสอบสวนคดีอาญา ทันทีที่เดินทางถึงไต้หวันเมื่อเช้าวันนี้ (7 พ.ค. 68)

25 รายเป็นผู้ต้องหามีหมายจับ ที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบ

ในจำนวน 55 รายที่ถูกส่งตัวกลับครั้งนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกคนไปทำงานบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา หลังตำรวจตรวจสอบพบว่า 25 รายเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาและถูกออกหมายจับ ขณะที่อีก 30 คน กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเหยื่อที่ถูกล่อลวงหรือเข้าร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์เองด้วยความสมัครใจ

==หลี่คุนต๋า//หัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศ กรมสอบสวนคดีอาญา==
แม้จะถูกควบคุมหรือกักขัง
เราจะดำเนินการตรวจสอบให้ชัดเจน
เพื่อจำแนกว่าเขาเข้าข่ายเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์หรือไม่
แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย
เราจะดำเนินคดีอย่างจริงจังและถึงที่สุด

เมียนมายอมปราบแก๊งต้มตุ๋นหลังถูกกดดัน ทยอยปล่อยตัวเหยื่อ

การที่สามารถนำตัวผู้ต้องสงสัยกลับไต้หวันได้ในครั้งนี้ เป็นผลจากที่รัฐบาลเมียนมาเริ่มปราบปรามแก๊งหลอกลวงอย่างจริงจังและทยอยปล่อยตัวเหยื่อหลังได้รับแรงกดดันจากนานาชาติ อย่างไรก็ตาม ทางการไต้หวันยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ามีชาวไต้หวันค้างอยู่ในพื้นที่อีกเท่าใด หรือบางส่วนอาจถูกส่งตัวไปยังจีนแล้วหรือไม่ ซึ่งตำรวจยอมรับว่าการเข้าถึงข้อมูลเป็นไปอย่างจำกัดและต้องพึ่งพาข้อมูลจากช่องทางภายนอก

จนถึง เม.ย. ปีนี้ ตำรวจไต้หวันสกัดเหยื่อที่สนามบินเกือบ 10 ราย

เนื่องจากไต้หวันมีข้อจำกัดด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงทำให้ความร่วมมือด้านตุลาการระหว่างประเทศมีอุปสรรค นอกจากการร่วมมือกับองค์กรภาคประชาชนแล้ว ตำรวจไต้หวันยังได้สกัดเหยื่อบริเวณสนามบิน โดยจนถึงเดือนเมษายนปีนี้ สามารถสกัดผู้เสียหายได้เกือบ 10 ราย