สงครามภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังชะงักงัน อยู่ที่จีนจะตัดสินใจ

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงยืดเยื้อ ล่าสุด ทำเนียบขาวระบุว่า จีนต้องเป็นฝ่ายเดินหน้าหาข้อตกลงกับสหรัฐฯ ไม่ใช่ให้สหรัฐฯ เป็นฝ่ายไปเจรจากับจีน ขณะเดียวกัน จีนมีคำสั่งระงับการรับมอบเครื่องบินโดยสารโบอิ้งจากสหรัฐฯ ขณะที่ สหรัฐฯได้ประกาศรายชื่อ 5 ประเทศที่จะเข้าร่วมการเจรจาในรอบแรกแล้ว โดยไม่มีไต้หวันอยู่ในรายชื่อ

ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยพูดว่า หากจีนอนุมัติการขาย TikTok ก็อาจพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นการแลกเปลี่ยน ซึ่งจนถึงตอนนี้ข้อเสนอดังกล่าวยังคงมีผลหรือไม่

==แคโรไลน์ เลวิตต์ // เลขาธิการฝ่ายข่าวประจำทำเนียบขาว==
การตัดสินใจอยู่ที่จีน
จีนจำเป็นต้องทำข้อตกลงกับพวกเรา
ขณะที่พวกเราไม่จำเป็นต้องทำข้อตกลงกับพวกเขา

กว่า 15 ประเทศยื่นข้อเสนอต่อสหรัฐฯ การค้ากับจีนยังคงเปิดกว้าง

มาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ขณะนี้ประเทศต่างๆ กว่า 15 ประเทศยื่นข้อเสนอเพื่อหารือ และคาดว่าเร็วๆ นี้จะสามารถประกาศข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ ทรัมป์ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อทีมการค้าโดยหวังว่าจะได้อนุมัติข้อตกลงเหล่านี้ด้วยตนเอง สำหรับสถานการณ์สงครามภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในขณะนี้ ทรัมป์ระบุว่ายังคงเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับจีน

==หลินเจี้ยน // โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน==
การเผชิญกับความไม่แน่นอนจากภายนอก
จีนน่าจะยึดมั่นกับการจับมือ ไม่ใช่การปะทะ

จีนจับมือไม่ปะทะ ระงับการรับเครื่องบินโบอิ้งชั่วคราว

อัตราภาษีศุลกากรสะสมที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากจีนอยู่ที่ 145% จีนก็โต้กลับจาก 84% เป็น 125% การปะทะกันของสองประเทศทำให้สงครามการค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้รายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า จีนได้สั่งให้สายการบินของจีนระงับการรับมอบเครื่องบินโดยสารของโบอิ้ง ซึ่งถือเป็นการโต้ตอบและแสดงท่าทีต่อสหรัฐฯ ในเวลาเดียวกัน

สหรัฐฯ ระบุรายชื่อ 5 ปท. ที่จะได้เจรจาก่อน แต่ไม่มีชื่อไต้หวัน

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศรายชื่อ 5 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ให้เป็นกลุ่มเป้าหมายลำดับแรกในการเจรจา ซึ่งแต่ละประเทศก็ได้ออกมาตรการรับมือแล้ว ขณะที่ไต้หวันยังไม่มีรายชื่ออยู่ในการเจรจารอบแรก