TSMC เพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ หลายฝ่ายกังวลว่าความสำคัญไต้หวันจะลดลง

เมื่อวานนี้ (5 มี.ค. 68) บริษัทไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์ หรือ TSMC ประกาศเพิ่มการลงทุน 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานและจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในสหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลว่าความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของไต้หวันจะลดลง ทําเนียบประธานาธิบดีไต้หวันระบุว่า ต้องมองโลกในแง่ดี และยืนยันว่าเทคโนโลยีขั้นสูงที่สุดในการผลิตจะยังคงอยู่ในไต้หวัน
TSMC ขยายโรงงานในสหรัฐฯ ทำเนียบ ปธน. ชี้รากฐานยังคงอยู่ที่ไต้หวัน
การขยายการลงทุนในสหรัฐฯ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของบริษัทไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์ (TSMC) ถูกจับตามองเป็นพิเศษ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า โครงการลงทุนนี้จะทำให้สหรัฐฯ ได้เปรียบในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และย้ำว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับไต้หวัน สหรัฐฯ ก็จะมีบทบาทสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างมหาศาลได้ แต่กระนั้นหลายฝ่ายก็กังวลว่า นี่อาจจะทำให้ความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของไต้หวันลดลง ซึ่งทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันก็ชี้แจงว่า รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตั้งแต่แรก โดยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยที่สุดจะยังคงอยู่ในไต้หวัน
==กัวหย่าฮุ่ย // โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน==
เมื่อ TSMC มายื่นขออนุญาตไปลงทุนตั้งโรงงานในสหรัฐฯ
รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือและกำกับดูแล
เพื่อให้มั่นใจว่าในขณะที่ TSMC ขยายการลงทุนในสหรัฐฯ
ก็จะยังคงรักษาเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดไว้ในไต้หวันด้วย
หลายฝ่ายกังวลอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ลดลง กระทบความมั่นคงของชาติ
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าโครงการลงทุนนี้เทียบเท่ากับการถ่ายโอนเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของไต้หวันไปยังต่างประเทศหรือไม่ ซึ่งนี่ไม่เพียงทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียของภาคอุตสาหกรรม แต่อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติด้วย ทั้งนี้มีนักวิชาการวิเคราะห์ว่า ทรัมป์ไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาที่ชัดเจนว่าจะใช้วิธีการใดปกป้องไต้หวัน ดังนั้นไต้หวันจำเป็นต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์ และก็จำเป็นต้องรักษาสมดุลอย่างแม่นยำระหว่างความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
==สวี่จื้อเสียง // ผู้ช่วยนักวิจัยจากสถาบันวิจัยกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติ==
สหรัฐฯ กับไต้หวันและสองฝั่งช่องแคบในเบื้องต้น
ยังไม่ได้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในเรื่องนี้
แน่นอนว่าแบบนี้
ก็ยังสามารถเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ
ด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศให้มีประสิทธิภาพได้
ไต้หวันต้องจับมือกับประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ เพื่อสร้างเครือข่ายระดับโลก
นักวิชาการเผยว่า สหรัฐฯ กำลังเพิ่มการลงทุนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก อันสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการแข่งขันและร่วมมือกับจีน ดังนั้นไต้หวันต้องไม่เพียงแค่กระชับความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในด้านเซมิคอนดักเตอร์ แต่ยังต้องร่วมมือกับประเทศประชาธิปไตยในยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ อย่างเช่น TSMC ก็จะขยายการดำเนินงานไปในญี่ปุ่นกับเยอรมนี โดยหวังให้ห่วงโซ่อุปทานของเซมิคอนดักเตอร์มีเสถียรภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น