ผู้อนุบาลหลอกผู้สูงอายุภาวะสมองเสื่อมไปจำนองบ้าน

คุณผู้ชมคะ ที่นครไถหนาน เกิดกรณีฉ้อโกงซึ่งสงสัยว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุรายหนึ่งพาผู้สูงอายุที่ตนดูแลไปจำนองบ้านเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านกว่าเหรียญไต้หวัน โดยหลังจากบ้านดังกลาวถูกยึด ก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุอีกคนที่อยู่ในหน่วยงานเดียวกันไปซื้อบ้านดังกล่าวในราคา 3,700,000 เหรียญไต้หวัน จึงทำให้ญาติสงสัยว่าเป็นการร่วมกันฉ้อโกง ซึ่งตอนนี้ได้ส่งเรื่องไปให้อัยการสอบสวนแล้ว

ผู้แทนประชาชนซักถามพร้อมโชว์รูปถ่ายบ้านหลังหนึ่งใน ต.หมาโต้ว นครไถหนาน พร้อมเปิดโปงว่ามิถุนายนปีที่แล้ว (2566) เจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงวัยความจำเสื่อมที่อยู่คนเดียวได้หลอก พาไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ นำบ้านของตนไปจำนองกู้เงิน

==ลูกสาวของผู้สูงอายุที่ตกเป็นเหยื่อ==
ความจริงเเล้วคุณแม่ไม่ได้ต้องการ (กู้เงิน)
พวกเราเลยไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องกู้เงิน

บ้านที่ขายทอดตลาดถูก จนท.หน่วยงานเดียวกันซื้อไป สงสัยว่าเป็นการต้มตุ๋น

รายงานข่าวระบุว่า ผู้อนุบาลพาผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพังไปจำนองบ้าน กู้เงิน 3 ล้านกว่าเหรียญจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ จนกระทั่งบ้านถูกยึด ลูกสาวสองคนที่อาศัยอยู่ในไทเปจึงทราบเรื่องนี้ แต่ลูกชายของหัวหน้าศูนย์ฯ อ้างว่าราคาประมูลต่ำเกินไป ตนยินดีซื้อในราคา 3.7ล้านเหรีญไต้หวัน เเต่ราคาตลาดอย่างน้อย 10 ล้านเหรียญไต้หวัน ญาติจึงสงส้ยว่าเป็นการรวมหัวต้มตุ๋น

ป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุตกเป็นเหยื่อ การประเมินภาวะสมองเสื่อมสำคัญมาก

กรมสังคมสงเคราะห์ระบุว่ากรณีนี้ได้ส่งฟ้องตามกฎหมายแล้ว และผู้อนุบาลก็ถูกพักงานด้วยหากพบว่าเป็นความจริงก็จะถูกลงโทษอย่างรุนแรงตามกฎหมาย และเตือนว่าการประเมินภาวะสมองเสื่อมเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุตกเป็นเป้าหมายของการฉ้อโกงมีความสำคัญมาก

==ไช่หยุนเฉิง //ผู้บริหารสถาบันดูแลระยะยาว(ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้)==
ไม่มีหลักฐานว่าเป็นโรคสมองเสื่อม
ดังนั้นเขาจึงยังคงเป็นบุคคลธรรมดาปกติตามกฎหมาย
เขามีสติสัมปชัญญะ
และสามารถตัดสินใจทุกอย่างเองได้
รวมถึงทรัพย์สิน
จึงทำให้เกิดความเสี่ยง

กรมสังคมสงเคราะห์ต้องตรวจสอบกำกับดูแลเข้มงวดมากขึ้น

เนื่องจากจำนวนประชากรสูงอายุในไต้หวันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกือบทุกครัวเรือนต้องเผชิญกับปัญหาการดูแลผู้สูงอายุ องค์กรต่างๆยอมรับว่าพื้นฐานการคัดเลือกผู้อนุบาลเป็นปัญหาหนึ่งที่องค์กรส่วนใหญ่ต้องเผชิญ ผู้แทนท้องถิ่นเรียกร้องให้กรมสังคมสงเคราะห์เสริมการกำกับดูแลเข้มงวดมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว ฉ้อโกงผู้สูงอายุ