หนุ่ม 23 เมาแล้วขับไร้ใบขับขี่ ฝ่าไฟแดงชนคนขี่รถตายแล้วหนี

ช่วงเดือนมีนาคมปีนี้ นครไทจงเกิดกรณีชายวัย 23 ปี ไม่มีใบขับขี่ เมาแล้วขับ ขับรถเร็วฝ่าไฟแดง พุ่งชนนักศึกษาแพทย์รายหนึ่งที่กำลังขี่มอเตอร์ไซด์อยู่เสียชีวิต วันนี้ศาลชั้นต้นนครไทจงมีคำพิพากษาตัดสินโทษจำคุก 10 ปี ซึ่งครอบครัวของผู้เสียหายกล่าวว่า ตัดสินจำคุกแค่ 10 ปี ถือว่าไร้ซึ่งความยุติธรรมโดยสิ้นเชิง

นศ.แพทย์รับจ๊อบขี่รถส่งอาหาร ถูกหนุ่มวัย 23 เมาแล้วขับชนดับ

ใส่เสื้อกาวน์สีขาวของลูกชายมาขึ้นศาล เดือนมีนาคมปีนี้ ในช่วงที่นักศึกษาแพทย์หนุ่มแซ่เฉินวัย 22 ปีมาฝึกงานที่นครไทจง ได้รับจ๊อบขี่รถส่งอาหาร ถูกหนุ่มเมาแล้วขับ แซ่อู๋วัย 23 ปี ขับรถชนเสียชีวิต พ่อของผู้ตายไม่ขอไกล่เกลี่ย วอนศาลพิจารณาลงโทษอย่างหนัก

==พ่อของผู้เสียชีวิต==
ผมไม่ต้องการเงินชดเชยจากเขา
และไม่ขอไกล่เกลี่ย
สิ่งที่ผมหวังคือให้ผู้พิพากษาและคณะลูกขุน
ตัดสินลงโทษที่หนักที่สุด

ชายแซ่อู๋เมาแล้วขับไร้ใบขับขี่ ฝ่าไฟแดงชนคนตายแล้วหนี

ขณะที่นักศึกษาแพทย์ขี่รถส่งอาหารผ่านแยกหนึ่งในเขตซีถุนของนครไทจง ถูกหนุ่มแซ่อู๋ซึ่งเมาแล้วขับฝ่าไฟแดงชนเสียชีวิตแล้วหนีไป สองชั่วโมงหลังเกิดเหตุ เขาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดได้ที่ 0.37 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเขาเคยมีประวัติขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ด้วยกัน 3 ครั้ง ฝ่าฝืนกฎจราจรถึง 15 ครั้ง

เมาแล้วขับชนคนตายครั้งแรก จำคุก 3-10 ปี

ผู้ที่ก่อเหตุเมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายครั้งแรก มีโทษจำคุก 3-10 ปี แต่จากข้อมูลในปี ค.ศ. 2019 ถึง 2023 พบว่า คดีเมาแล้วขับทั่วไป โทษจำคุกเฉลี่ยต่ำกว่า 6 เดือน และในกรณีที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 ปี ซึ่งสมาคมป้องกันการเมาแล้วขับได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าโทษเบาเกินไป และไม่ต่างจากการสร้างบาดแผลซ้ำซ้อนให้กับครอบครัวผู้เสียหาย

==เกาซูเจิน // เลขาธิการสมาคมต่อต้านการเมาแล้วขับไต้หวัน==
ผู้พิพากษาสามารถตัดสินโทษได้มากกว่า 3 ปี
แต่กลับตัดสินโทษไม่ถึง 3 ปี 2 เดือน
ทำให้ครอบครัวผู้เสียหาย
รู้สึกผิดหวังอย่างมาก

กลุ่ม ปชช. แนะวางแนวทางลงโทษให้ผู้พิพากษาตัดสินคดีเมาแล้วขับได้เหมาะสม

สมาคมต่อต้านการเมาแล้วขับไต้หวัน (Taiwan Against Drunk Driving) แนะหน่วยงานยุติธรรมวางแนวทางลงโทษให้แก่ผู้พิพากษาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ตัดสินลงโทษคดีเมาแล้วขับได้อย่างเหมาะสม จึงจะสามารถยับยั้งการกระทำผิดและช่วยเยียวยาบาดแผลของครอบครัวผู้เสียหายได้อย่างแท้จริง