ดัชนี AI ชี้ไต้หวันอยู่อันดับ 16 NDC เตรียมแก้กฎหมายดึงบุคลากร
การจัดอันดับดัชนี AI ทั่วโลกโดย The Observer (หนังสือพิมพ์อังกฤษ) ไต้หวันอยู่ในอันดับที่ 16 อย่างไรก็ตาม ในด้านศักยภาพในการพัฒนา ระบบนิเวศทางธุรกิจ และบุคลากร ไต้หวันกลับอยู่ในอันดับประมาณ 30 สภาพัฒนาแห่งชาติไต้หวัน (NDC) ระบุว่า จะปรับปรุง “กฎหมายการรับสมัครและจ้างงานผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ” เพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เข้ามาทำงานในประเทศ
ดัชนี AI ชี้ไต้หวันอยู่อันดับ 16 ขยับขึ้น 5 อันดับจากปีก่อน
ไต้หวันครองตำแหน่งผู้นำโลกในอุตสาหกรรมผลิตแผ่นเวเฟอร์ วงจรรวม IC จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งเซมิคอนดักเตอร์” แต่อย่างไรก็ตามในด้านของการพัฒนา AI ยังไม่ติดอันดับต้นๆ จากการจัดอันดับของดัชนี AI โดย The Observer ไต้หวันอยู่อันดับ 16 ขยับขึ้นมา 5 อันดับจากปีที่แล้ว
การพัฒนา AI ยังต่างกันหลายด้าน ต้องพยายามให้มากขึ้น
ผลการจัดลำดับล่าสุดชี้ว่า ในด้านเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานไต้หวันอยู่ที่อันดับ 7 และอันดับที่ 8 ด้านยุทธศาสตร์นโยบาย แต่ในด้านศักยภาพการพัฒนาอยู่อันดับที่ 27 ของโลก ระบบนิเวศธุรกิจอยู่อันดับที่ 30 และด้านบุคลากรอยู่อันดับที่ 33 โดยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาอุตสาหกรรม กระทรวงเศรษฐการ วิเคราะห์ว่าการพัฒนา AI ของไต้หวันมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่ชัดเจน และยังต้องพยายามมากขึ้น
==ชวีเจี้ยนจ้ง // หัวหน้าฝ่ายการตลาด บ.Wonders.ai==
ขาดซอฟต์แวร์ที่ใช้พัฒนา
และยังไม่มี ecosystem ที่เอื้อต่อการรวมและการใช้งานจริง
ตลาดภายในประเทศก็เล็กเกินไป ตลาดหลักอยู่ในสหรัฐฯ และยุโรป
ควรสนับสนุนผลักดันให้บ.ไต้หวันไปลงทุน
ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์ในสหรัฐฯ และยุโรป
ไต้หวันฮาร์ดแวร์โดดเด่นกว่าซอฟต์แวร์ ต้องเร่งพัฒนาบุคลากร
บริษัทพัฒนา AI ซอฟต์แวร์ในไต้หวันวิเคราะห์ว่า ตลาดไต้หวันมีขนาดเล็ก ระบบนิเวศอุตสาหกรรมยังไม่สมบูรณ์ อีกทั้งการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามายังล่าช้า ทำให้ช่องว่างระหว่างระบบนิเวศ AI ของยุโรปและสหรัฐฯ ขยายตัวมากขึ้น เมื่อพิจารณาห่วงโซ่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน พบว่าส่วนใหญ่เน้นการผลิตเวเฟอร์และการออกแบบ IC แสดงให้เห็นว่าไต้หวันฮาร์ดแวร์แข็งแกร่งกว่าซอฟต์แวร์
ทั่วโลกแย่งชิงคนเก่ง AI ไต้หวันปรับ กม.จ้างงานดึงดูดบุคลากรต่างชาติ
สภาพัฒนาแห่งชาติเปิดเผยว่า ระหว่างปี 2025–2027 ไต้หวันจะมีบุคลากรด้าน AI เพิ่มขึ้นปีละราว 3,000–4,000 คน แต่จำนวนดังกล่าวอาจยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาด จึงย้ำว่าจะดำเนินการปรับปรุง “กฎหมายการดึงดูดและการจ้างงานบุคลากรต่างชาติ” เพื่อให้ไต้หวันสามารถก้าวทันการแข่งขันด้าน AI ระดับโลก
