หุ่นยนต์ทางการแพทย์ถูกนำมาใช้ทางคลีนิก สธ.วางแนวทางปฏิบัติ
ปัจจุบันมีการนำ AI และหุ่นยนต์ทางการแพทย์เข้ามาใช้ช่วยวินิจฉัย รวมถึงตรวจคัดกรองในสถานพยาบาลเพิ่มมากขึ้น หวังว่าจะสามารถลดภาระของเจ้าหน้าที่พยาบาลได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขฯ ไต้หวัน กำลังร่างแนวปฏิบัติสำหรับการประยุกต์ใช้ AI ในทางการแพทย์
หุ่นยนต์ทางการแพทย์ได้รับความนิยม เพิ่มประสิทธิภาพการพยาบาล
เมื่อผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาลต้องการลุกจากเตียง ระบบคอมพิวเตอร์จะตรวจจับทันที เพื่อแจ้งเตือนให้พยาบาลมาดูแลอย่างใกล้ชิด ป้องกันผู้สูงอายุสมองเสื่อมที่จะลุกออกมาการจากเตียงและเดินไปมาด้วยตนเองในเวลากลางคืนได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์ขนส่งที่ช่วยนำส่งยาไปยังเตียงผู้ป่วยได้ ทำให้พยาบาลไม่จำเป็นต้องวิ่งกลับไปกลับมาอีกต่อไป
==หลี่หงเซิง // รองประธานบริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง
หากพูดถึงหุ่นยนต์ส่งอาหารเหล่านี้
พวกมันจะไม่มีขั้นตอนการยืนยันตัวตน
ดังนั้นในโรงพยาบาล
จึงมีความแตกต่างตรงส่วนนี้
ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ หุ่นยนต์ถูกนำมาใช้แพร่หลาย
เพื่อรับมือกับการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลในประเทศจึงร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ประยุกต์ใช้หุ่นยนต์และอุปกรณ์ AI อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะหุ่นยนต์ “อ้ายเป่าหมายเลข 1” (EirBot) ที่สามารถใช้เสียงในการให้ความรู้ก่อนการผ่าตัด ช่วยลดภาระเจ้าหน้าที่พยาบาลได้สูง 30-40%
สธ. มอบให้มหาวิทยาลัยการแพทย์ไทเป วางแนวทางใช้ AI
เพื่อตอบรับกับการใช้งาน AI และหุ่นยนต์ในสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ไต้หวัน จึงเริ่มร่างแนวปฏิบัติเบื้องต้นสำหรับการประยุกต์ใช้ AI คาดว่าแล้วเสร็จภายในครึ่งแรกของปีหน้า พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำว่า แม้สถานพยาบาลแต่ละแห่งจะสามารถทดลองใช้ AI ได้ก่อนที่แนวปฏิบัติจะมีผลบังคับใช้ แต่ต้องมั่นใจในความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วย เพื่อคุ้มครองสิทธิ์ให้กับผู้ป่วย
