อินโดฯ ประท้วงเดือด! ดับ 6 เจ็บและจับกุมเกินร้อยรายแล้ว
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประเทศอินโดนีเซียเกิดการประท้วงใหญ่ เนื่องจากประชาชนไม่พอใจปัญหาการเลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและการเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่สูงเกินเหตุให้กับสมาชิกรัฐสภา ซึ่งการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุม ยังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย บาดเจ็บและถูกจับกุมอีกกว่า 100 ราย
ปชช. ไม่พอใจรัฐฯ จ่ายเบี้ยเลี้ยง ส.ส. สูงลิ่ว ม็อบบานปลาย
กำแพงสถานีตำรวจและอาคารรัฐสภาถูกพ่นด้วยข้อความว่า “ฆาตกร” เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และประชาชนหลายพันคน ได้ออกมาชุมนุมประท้วง เพื่อแสดงความไม่พอใจ ต่อสวัสดิการที่พักและสิทธิประโยชน์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่สูงลิบลิ่ว ขณะที่ประชาชนในประเทศยังใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก ทั้งยังขาดแคลนงบประมาณด้านการศึกษา โดยหลายวันมานี้ การประท้วงได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม ด้านผู้ประท้วงก็ตอบโต้กลับด้วยการขว้างปาหินและยิ่งพลุใส่
==ผู้ประท้วงในกรุงจาการ์ตา==
ชนวนเริ่มจากเมื่อคืนนี้
เพื่อนของเราตกเป็นเหยื่อ
พูดตรงๆ ตอนเห็นข่าว ร้องไห้เลย
ทั้งช็อก ทั้งโกรธ หลายอารมณ์ปนกัน
ปชช. บุกทำลาย+ปล้นบ้าน รมว.คลัง+นักการเมือง
ช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงในกรุงจาการ์ตาได้บุกเข้าไปยังบ้านพักของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อขโมยของมีค่า ขณะที่บ้านพักของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล ก็ถูกบุกทำลาย และปล้นสะดมเช่นกัน เหตุจลาจลลุกลาม ส่งผลให้ธนาคารและบริษัทบางแห่งต้องประกาศทำงานแบบ work from home สถานศึกษาหลายแห่งต้องหยุดเรียนชั่วคราว บางพื้นที่ถึงขั้นประกาศเคอร์ฟิว ขณะนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วหลายราย บาดเจ็บกว่าร้อยคน และถูกจับกุมอีกหลายร้อยคน โดยกลุ่มทนายความ ได้ออกมาเรียกร้อง ให้ตำรวจปล่อยตัวโดยทันที
ปธน. อินโดฯ : ยอมยกเลิกสิทธิพิเศษของสมาชิกรัฐสภา
ภายใต้แรงกดดันจากหลายฝ่าย เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย ได้ประกาศว่า จะยกเลิกสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษของสมาชิกรัฐสภา โดยเน้นย้ำว่า รัฐบาลรับฟังเสียงของประชาชน แต่ก็จะดำเนินมาตรการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่ใช้ความรุนแรงและก่อให้เกิดความเสียหาย
บททดสอบครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ปราโบโวขึ้นดำรงตำแหน่ง
สถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ถือเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุด หลังประธานาธิบดีขึ้นดำรงตำแหน่ง อย่างไรก็ดี การประท้วงในครั้งนี้ จะผลักดันการปฏิรูประบบได้หรือไม่ ยังต้องติดตามกันต่อไป
