รอยเลื่อนสะกายเคลื่อนในรอบ 200 ปี สะเทือนถึงไทย

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมียนมาในครั้งนี้ นักวิชาการไต้หวันวิเคราะห์ว่า จุดศูนย์กลางเกิดขึ้นที่บริเวณช่วงกลางของรอยเลื่อนสะกายในประเทศเมียนมา พื้นที่บริเวณนี้ไม่ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2382 ทำให้มีการสะสมพลังงานอย่างต่อเนื่อง และอาจเป็นสาเหตุสำคัญของแผ่นดินไหวรุนแรงในครั้งนี้
คาบสมุทรอินโดจีนสั่นสะเทือน ตึกถล่ม ถนนขาด
เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทั่วทั้งคาบสมุทรอินโดจีนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน อาคารหลายแห่งพังถล่ม ถนนในหลายพื้นที่แตกร้าว ความเสียหายยังคงขยายวงกว้าง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในภาคกลางของประเทศเมียนมา ที่ความลึกเพียง 10 กิโลเมตร จัดเป็นแผ่นดินไหวระดับตื้นมาก
รอยเลื่อนสะกายยาว 1,200 กม. เคลื่อนตัวในรอบ 200 ปี
ตามข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯ (USGS) แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาด 7.7 แมกนิจูด หรือ 8.2 ตามมาตราริกเตอร์ สาเหตุหลักมาจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียและแผ่นเปลือกโลกอินเดีย ส่งผลให้รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) ซึ่งมีความยาว 1,200 กิโลเมตร และเป็นหนึ่งในรอยเลื่อนที่มีการเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาสูงที่สุดในโลกเกิดการเคลื่อนตัว
==กัวไค่เหวิน // อดีต ผอ. ศูนย์พยากรณ์แผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวัน==
มันมีขนาดเทียบเท่ากับแผ่นดินไหวเมื่อเดือนกันยายนปี 2542 ในไต้หวัน
ขนาด 7.7 พลังทำลายล้างจะเท่ากับ
ระเบิดปรมาณูประมาณ 177 ลูก
การสะสมพลังงานอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสาเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้
หวังอวี้ รองศาสตราจารย์ คณะธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (NTU) เปิดเผยว่า มีการคาดการณ์ตั้งแต่ปี 2557 ว่ารอยเลื่อนในภาคกลางของเมียนมาอาจมีวัฏจักรการเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 200 ปี ขณะที่รอยเลื่อนสะกายไม่มีบันทึกการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาตั้งแต่ปี 2382 ส่งผลให้มีการสะสมพลังงานอย่างต่อเนื่อง นักวิชาการจึงไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าปัจจัยดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุของแผ่นดินไหวรุนแรงในครั้งนี้
==หวังอวี้ // รองศาสตราจารย์ คณะธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน==
สิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างในตอนนี้คือ
ในจุดที่รอยเลื่อนสะกายยังไม่เกิดการเคลื่อนตัว
อาจมีความเป็นไปได้ที่จะเกิด
แผ่นดินไหวขนาดใหญ่กว่านี้ในอนาคต
รอยเลื่อนขยับ จะกระทบไต้หวันหรือไม่ ยังคงต้องเฝ้าระวัง
กรมอุตุนิยมวิทยาประเมินว่า ต่อจากนี้ไปความเค้นทางธรณีตามแนวรอยเลื่อนจะมีการขยับตัว ซึ่งจะทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอย่างแน่นอน ส่วนจะมีผลกระทบต่อแผ่นเปลือกโลกที่อยู่รอบๆ ไต้หวันหรือไม่นั้น ยังคงต้องเฝ้าระวังต่อไป