พนง.เอเวอร์กรีนมารีน ลักลอบขนยาเสพติดจากไทยมาไต้หวัน
อดีตพนักงานบริษัทเอเวอร์กรีนมารีน 2 ราย ถูกตั้งข้อสงสัยว่าสมคบกับพนักงานปัจจุบัน อาศัยช่องโหว่ของการตรวจสอบความปลอดภัยที่ท่าเรือ ซุกซ่อนยาเสพติดมูลค่ากว่า 10 ล้านไว้ในกระเป๋าของลูกเรือ ลักลอบนำเข้าจากประเทศไทยมายังไต้หวัน โดยสำนักงานอัยการเขตเฉียวโถวสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 รายตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดแล้ว
ตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องหา โดยคนเหล่านี้เป็นอดีตพนักงานของบริษัทเอเวอร์กรีนมารีน (Evergreen Marine) ที่ต้องสงสัยว่าสมรู้ร่วมคิดกับพนักงานปัจจุบัน ลักลอบขนยาเสพติดผ่านเรือบรรทุกสินค้าเข้ามายังไต้หวัน
==จี้เหยียนซี // หัวหน้าหน่วยสอบสวนที่ 3 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง==
ได้จับกุมลูกเรือแซ่ไล่ของบริษัทขนส่งทางทะเล
กับอดีตพนักงานแซ่ไช่และแซ่หลิวในคดีนี้รวม 3 ราย
ทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานให้การไปในทิศทางเดียวกัน
ว่าช่องทางการขนส่งยาเสพติดมีคนในและคนนอกร่วมมือกัน
ตร. ตรวจยึดกัญชาและไส้บุหรี่ มูลค่าเกือบ 10 ล้านเหรียญไต้หวัน
ยาเสพติดที่ตรวจยึดได้มี ดอกกัญชา บุหรี่กัญชา และตลับน้ำกัญชา หนักถึง 3.5 กิโลกรัม มูลค่าเกือบ 10 ล้านเหรียญไต้หวัน พนักงานสอบสวนระบุว่า อดีตพนักงานซื้อยาเสพติดจากประเทศไทย แล้วส่งต่อให้กับลูกเรือปัจจุบัน โดยใช้ช่องโหว่ของการตรวจความปลอดภัยบริเวณท่าเรือซุกซ่อนเอาไว้ในกระเป๋าถือ เพื่อขนส่งกลับมายังไต้หวันและจำหน่ายต่อให้กับผู้ต้องหารายอื่นๆ
อัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย Evergreen Marine: ผู้ต้องหาลาออกแล้ว
บริษัทเอเวอร์กรีนมารีนชี้แจงว่า พนักงานปัจจุบันที่เป็นผู้ต้องหาได้ยื่นลาออกเองแล้ว กรมเจ้าท่าเผยว่า มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะการยื่นคำร้องขอเข้าออกท่าเรือของเรือเท่านั้น ขณะที่กรมศุลกากรระบุว่า แบบฟอร์มแจ้งข้อมูลที่ลูกเรือกรอกต้องถูกตรวจสอบทุกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 24 มี.ค. สำนักงานอัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มี่ลักลอบขนส่งกัญชาล็อตใหญ่ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดแล้ว
