ราคาทองคำพุ่งทะลุ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลก สร้างสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์
โดยแตะที่ 3,004.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากการวิเคราะห์สาเหตุพบว่า นอกจากการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางของหลายประเทศซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาทองคำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งสูง ไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 13.6%

ไตรมาสแรกของปีนี้ยังไม่สิ้นสุด แต่ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับขึ้นถึงร้อยละ 13.6 แล้ว กองทุน ETF ทองคำ ยังคงมีกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าต่อเนื่อง เฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็มีเงินทุนไหลเข้าถึง 9,400,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นยอดรายเดือนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี พ.ศ.2565 คนในวงการทองคำมองว่า ทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

==พนักงานร้านทองที่ลอนดอน==
อยู่ในธุรกิจนี้มาเกือบ 20 ปีแล้ว
เฝ้าดูราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่าช่วง 5 ถึง 10 ปีที่แล้ว
เพียงดูกราฟแนวโน้มราคาทองคำในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ก็จะเห็น

ธนาคารกลางประเทศต่างๆแย่งซื้อทองคำ หนุนราคาทองพุ่งสูง

ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) ระบุว่า ในปี 2567 ธนาคารกลางในประเทศต่างๆ ซื้อทองคำมีปริมาณรวมเกิน 1,000 ตัน นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ปริมาณการซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในปีนี้ (พ.ศ.2568) และเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น

สหรัฐฯ ยุโรปอายัดทรัพย์สินของรัสเซีย หลาย ปท.เร่งซื้อทองกันเสี่ยง

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครน โลกตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย หนึ่งในนั้นคือการอายัดทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของธนาคารกลางรัสเซียราว 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ฟอร์บส์มองว่า สิ่งนี้ทำให้หลายประเทศตระหนักถึงความเสี่ยงของการถือครองเงินตราต่างประเทศ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จึงมีความต้องการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการอายัดเงินทุนสำรองแล้ว สงครามการค้าที่นำไปสู่การขึ้นภาษีศุลกากร ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้หลายประเทศลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ทองคำกลายเป็นตัวเลือกแรกในปัจจุบัน