ไทย-เมียนมา-จีน ร่วมมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ไทย เมียนมา จีน ร่วมปราบปรามเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา ล่าสุด กองกำลัง BGF เตรียมปล่อยตัวเหยื่อ 7,141 คน จาก 28 ประเทศ แต่ยังไม่มีกำหนดวันแน่ชัด กระทรวงกลาโหมไทยระบุว่า สถานทูตของแต่ละประเทศต้องยืนยันตัวตนของเหยื่อก่อน จึงจะสามารถส่งตัวผ่านไทยเพื่อกลับประเทศได้

กองกำลังติดอาวุธรักษาชายแดนของกะเหรี่ยง หรือ BGF (Karen Border Guard Force) ได้ควบคุมเหยื่อและคนที่ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน KK Park ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเมียวดี ของประเทศเมียนมา ล่าสุด รัฐบาลเมียนมาได้ร่วมมือกับทางการไทยและจีน ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้านกองกำลัง BGF เผยว่า จะมีการปล่อยตัวเหยื่อและคนที่ไปทำงานรวม 7,141 คน จาก 28 ประเทศ โดยในจำนวนนี้เป็นชาวจีนมากที่สุด 4,860 คน

==พันโท นาย เมา ซอว์//โฆษกของกองกำลัง BGF==
สถานการณ์ตอนนี้คือเดิมเราวางแผนจะปล่อยตัววันละ 500 คน
แต่ภารกิจหลักของเราคือการช่วยเหลือและปราบปราม
ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ถูกควบคุมตัวเพิ่มขึ้นทะลุ 7,000 คนแล้ว

ไทยเดินหน้ากวาดล้างคอลเซ็นเตอร์ หวังฟื้นฟูความเชื่อมั่น

เนื่องจากเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา (2568) มีนักแสดงชาวจีนรายหนึ่งถูกหลอกมายังประเทศไทย จากนั้นถูกควบคุมตัวไปยังฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นข่าวที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว รัฐบาลไทยได้ดำเนินการระงับการให้บริการไฟฟ้า สัญญาณเครือข่ายสื่อสาร และเชื้อเพลิง โดยหวังว่าจะฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก แต่เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐาน กองกำลัง BGF จึงได้หารือกับทางการไทยเพื่อปล่อยตัวเหยื่อ ทั้งนี้ ยังไม่มีการกำหนดวันเวลาที่แน่ชัด ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยย้ำว่า ภารกิจปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นยังไม่สิ้นสุด

ไทยเรียกร้องนานาประเทศ ร่วมมือแยกเหยื่อออกจากกลุ่มอาชญากร

ทั้งนี้รัฐบาลไทยได้เรียกร้องให้สถานทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากต่างประเทศ ร่วมมือกับไทยในการจำแนกระหว่างเหยื่อและอาชญากร พร้อมทั้งเผยว่าจะไม่อนุญาตให้บุคคลเหล่านี้เดินทางเข้าประเทศไทย เว้นแต่ว่ารัฐบาลของประเทศนั้นๆจะรับประกันดำเนินการส่งตัวพลเมืองของตนกลับประเทศ