ทางการเริ่มใช้การตรวจสารเสพติดจากน้ำลาย สกัดเสพแล้วขับ
สถิติ 9 เดือนแรกของปีนี้ คดีเสพแล้วขับในไต้หวันทะลุ 5,000 คดี! เมื่อวานนี้ (20 พ.ย. 68) เริ่มมีการใช้วิธีตรวจสารเสพติดจากน้ำลายเป็นครั้งแรก โดยในคืนเดียวกันที่เขตฟงซาน นครเกาสง พบผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่เสพเฮโรอีน จนถึงเช้าวันนี้ (21 พ.ย. 68) ทั่วทั้งไต้หวัน พบคดีเสพแล้วขับรวม 10 คดี จากการตรวจสารเสพติดจากน้ำลาย
ชายต้องสงสัยเสพยา ตรวจน้ำลายพบสารเฮโรอีน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดชายต้องสงสัยรายหนึ่ง พบที่แขนมีร่องรอยคล้ายฉีดยาเสพติด จึงขอตรวจด้วยชุดตรวจสารเสพติด เพียงใช้อุปกรณ์กวาดไปมาในช่องปากก็สามารถตรวจได้ สุดท้ายพบผลเฮโรอีนเป็นบวก
==เจิ้งเว่ยหาว // รองผู้บังคับการศูนย์ปราบปรามยาเสพติด==
หากผลตรวจออกมาเป็นบวก จะดำเนินการตามมาตรา 35
มีโทษปรับตั้งแต่ 30,000 ดอลลาร์ไต้หวันขึ้นไป
สูงสุดถึง 120,000 ดอลลาร์ไต้หวัน
เสพแล้วขับพุ่ง 5,000 เคส ตรวจเลือด-ปัสสาวะใช้เวลานาน
ปีที่แล้วไต้หวันมีคดีเสพแล้วขับ 2,169 คดี ส่วนปีนี้ตั้งแต่เดือนม.ค.ถึงก.ย.มีมากกว่า 5,000 คดี ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ที่จางฮั่ว ชายแซ่เฉินต้องสงสัยว่าเสพยาแล้วขับรถชนหญิงเสียชีวิตและหลบหนี ตำรวจสามารถจับกุมได้ในวันถัดมา พร้อมตรวจพบเฮโรอีน บุหรี่ผสมสารเสพติด กัญชา เคตามีน และแอมเฟตามีนในรถ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถยืนยันได้ทันทีว่าเป็นการเสพแล้วขับ ปัจจุบันมีการนำชุดตรวจน้ำลายมาใช้ นักวิชาการมองว่าจะช่วยลดการเกิดคดีลักษณะนี้ได้
==เจิ้งรุ่ยหลง // อาจารย์ ม.แห่งชาติจงเจิ้ง==
ให้ตำรวจเข้มงวดมากขึ้น
คอยสังเกตพฤติกรรมผู้ขับขี่
เป็นสถานการณ์แบบใด
จึงจะตั้งข้อสงสัยอย่างมีเหตุผลได้ว่า
อาจจะเสพสารเสพติดแล้วขับ
เริ่มตรวจน้ำลายวันแรก ครึ่งเช้าเจอคนเมายาแล้วขับ 10 ราย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานว่า เช้าวันที่ 21 พ.ย.นี้ จากการตรวจคัดกรองยาเสพติดด้วยน้ำลายทั่วประเทศ ก็พบผู้ขับขี่ที่มีผลเป็นบวกไปแล้วจำนวน 10 ราย
