เคาะแล้ว แจกเงินคนละ 1 หมื่น ไม่มีเงื่อนไขรายได้

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม สภาบริหารไต้หวันได้ผ่านมติเห็นชอบเพิ่มวงเงินงบประมาณเป็น 590,000 ล้านเหรียญไต้หวัน สำหรับโครงการแจกเงินสด คนละ 10,000 เหรียญไต้หวัน โดยไม่มีข้อจำกัดด้านรายได้ แต่มีการเลื่อนกำหนดการแจกจ่าย โดยจะเริ่มดำเนินการภายใน 1 เดือนหลังงบประมาณพิเศษประกาศใช้ และจะแจกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 7 เดือน

ครม.เสนอของบกลางเพิ่ม 8.784 หมื่นล้าน ส่งสภาฯ พิจารณา

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 14 สิงหาคม เห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2025 วงเงิน 87,840 ล้านเหรียญไต้หวัน โดยส่วนใหญ่ 63,600 ล้านเหรียญไต้หวันเป็นเงินอุดหนุนทั่วไปแก่ท้องถิ่น ส่วนที่เหลือใช้สำหรับปรับขึ้นเงินเดือนทหาร เสริมสร้างความร่วมมือทางการทูต และโครงการอื่น ๆ

เคาะแล้วแจกคนละ 1 หมื่น ไม่มีเงื่อนไขรายได้

ในส่วนของ “กฎหมายพิเศษเพื่อเสริมความยืดหยุ่น” ที่เกี่ยวข้องกับการแจกเงินเดิมกำหนดให้แจกจ่ายให้เสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม ครม.ได้เสนอแก้ไข โดยยังคงไม่มีเงื่อนไขตัดสิทธิ์คนมีรายได้สูง แต่ปรับเวลาการจ่ายเงิน

==เฉินกั๋วเซียน // เลขานุการสำนักพัฒนาอุตสาหกรรม กระทรวงเศรษฐการ==
อ้างอิงจากประสบการณ์ที่ผ่านมา
กระบวนการแจกเงินสดทั้งหมด
ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
ดังนั้นครั้งนี้จึงได้เพิ่มข้อกำหนดพิเศษไว้ในกฎหมาย
ให้เริ่มดำเนินการจ่ายเงินภายใน 1 เดือนหลังประกาศ
และต้องแจกจ่ายให้เสร็จภายใน 7 เดือน

ครม.เพิ่มอีก 20,000 ล้าน เสริมความแข็งแกร่งระบบโครงข่ายไฟฟ้า

เพื่อรับมือความท้าทายทางการค้าระหว่างไต้หวัน-สหรัฐฯ และสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการฟื้นฟูหลังพายุไต้ฝุ่น ครม.ได้ขยายขอบเขตของกฎหมายพิเศษเพื่อเสริมความยืดหยุ่น โดยเพิ่มงบอีก 20,000 ล้านเหรียญไต้หวัน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของระบบไฟฟ้าและโครงข่าย เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมได้รับพลังงานที่มีเสถียรภาพ

==หวังหย่าถิง // กรรมการผู้จัดการทั่วไป ไต้หวันเพาเวอร์==
(สำหรับ) เขตอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบส่งไฟฟ้าขนาดใหญ่
เพราะเราต้องการเสริมความยืดหยุ่นให้กับภาคอุตสาหกรรม
จึงเสริมความแข็งแรงของโครงข่ายไฟฟ้า
ครอบคลุมทั่วทั้งเขตอุตสาหกรรม

ภัยธรรมชาติเกิดถี่ เสริมโครงข่ายไฟฟ้านิคมอุตสาหกรรม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการ ระบุว่า งบ 20,000 ล้านเหรียญไต้หวันในกฎหมายนี้จะใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของโครงข่ายไฟฟ้าและทำสายไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติที่เกิดบ่อยในระยะหลัง โดยจะเน้นเป็นพิเศษกับนิคมอุตสาหกรรม