ที่นั่งสำรองให้กับบุคคลพิเศษ เปลี่ยนชื่อเป็น "ที่นั่งพิเศษ"

หลังเกิดกรณีพิพาทเกี่ยวกับที่นั่งสำรองให้กับบุคคลพิเศษในระบบขนส่งสาธารณะอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด สภานิติบัญญัติไต้หวันได้มีมติเห็นชอบเปลี่ยนชื่อจาก "ที่นั่งสำรองฯ" สำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ สตรี และเด็ก เป็น "ที่นั่งพิเศษ" สำหรับบุคคลที่มีความต้องการแท้จริง โดยกระทรวงคมนาคมไต้หวันจะประกาศให้มีการแก้ไขป้ายสัญลักษณ์ในระบบขนส่งสาธารณะต่อไป
ชายมีปัญหาที่ขาได้ใช้ที่นั่งพิเศษ แต่รู้สึกเกรงใจที่ได้นั่ง
นายจางมีปัญหาที่ขา เมื่อขึ้นรถไฟฟ้าจึงนั่งตรงที่นั่งสำรองให้กับบุคคลพิเศษที่อยู่ใกล้ๆ
==นายจาง // ผู้โดยสาร==
คุณเห็นว่าผมดูปกติดีใช่ไหม
แต่จริงๆ แล้วขาของผมไม่ค่อยดี
เห็นว่ามีที่นั่งตรงนั้น
เลยขอนั่งก่อน แต่ถ้าต้องลุก ผมก็จะลุกครับ
เด็ก ม.ต้น ที่นั่งสำรองให้กับบุคคลพิเศษ โดนวิจารณ์หนัก
ถึงแม้มีความจำเป็นต้องใช้ แต่หลายคนก็รู้สึกลำบากใจที่จะใช้ที่นั่งสำรองให้กับบุคคลพิเศษ เนื่องจากที่นั่งสำรองฯ ถูกระบุไว้ว่าสำหรับ “ผู้สูงอายุ ผู้พิการ สตรี และเด็ก” ทำให้ที่นั่งประเภทนี้ตกเป็นประเด็นถกเถียงหลายครั้ง รวมถึงเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาก็เกิดเหตุการณ์นักเรียนถูกตำหนิอย่างรุนแรงจากการนั่งที่นั่งสำรองฯ ส่งผลให้เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติไต้หวันได้มีมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายใหม่ เปลี่ยนชื่อจากที่นั่งสำรองให้กับบุคคลพิเศษ เป็น “ที่นั่งพิเศษ” และลบเงื่อนไขที่บอกว่าสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการ สตรี และเด็ก ออกไปด้วย
แก้เป็น "บุคคลที่มีความต้องการแท้จริง" ครอบคลุมขนส่งสาธารณะ
กระทรวงคมนาคมไต้หวัน ระบุว่าจะดำเนินการปรับปรุงคำจำกัดความให้สอดคล้องกับการแก้กฎหมาย และจะร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขฯ ในการพิจารณาออกแบบสัญลักษณ์ "ที่นั่งพิเศษ" ให้ใช้ในขบวนที่ไม่มีระบุเลขที่นั่ง เช่น รถไฟธรรมดา รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า และรถโดยสารประจำทาง