นายจ้างฟ้องผู้อนุบาลอินโดฯ ทำร้ายร่างกายอาม่า
ที่เขตอูรื่อ นครไทจง เกิดเหตุผู้อนุบาลชาวอินโดนีเซียทำร้ายร่างกายอาม่าที่ดูแล โดยหลังจากมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วเห็นว่ามีการทำร้ายร่างกายจริง แต่บริษัทจัดหางานปัดว่าเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล ทางครอบครัวจึงตัดสินใจฟ้องร้องดำเนินคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทศบาลนครไทจง
กล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์ ผู้อนุบาลอินโดฯ ทำร้ายอาม่า
อาม่าวัย 80 กว่าปีที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ถูกผู้อนุบาลชาวอินโดนีเซียตบตีทำร้ายร่างกายจนร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หญิงแซ่หยางซึ่งอาศัยอยู่ในนครไทจง ได้ว่าจ้างผู้อนุบาลรายนี้ผ่านบริษัทจัดหางานให้มาดูแลอาม่า กระทั่งเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ขณะตรวจสอบกล้องวงจรปิดเนื่องจากจำไม่ได้ว่าได้ฉีดอินซูลินให้อาม่าแล้วหรือยัง จึงพบเห็นพฤติกรรมรุนแรงของผู้อนุบาลโดยบังเอิญ
==คุณหยาง//ครอบครัวผู้เสียหาย==
เธอทั้งด่าทอและตบตี ทั้งที่หัว ใบหน้า
หน้าอก เท้า รวมถึงท้องด้วย
แต่บริษัทจัดหางานกลับบอกว่านั่นเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลของผู้อนุบาล
แบบนี้ทางบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบเลยหรือ?
คนที่มาทำงานก็จ้างผ่านบริษัทคุณไม่ใช่เหรอ?
จะมาตอบกันแบบนี้ได้ยังไง
เอเยนต์ไม่ขอโทษ พาผู้อนุบาลกลับ ครอบครัวไม่พอใจ ยื่นฟ้อง
ครอบครัวผู้เสียหายระบุว่า เพิ่งว่าจ้างผู้อนุบาลต่างชาติให้มาทำงานเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ หลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบการทำร้ายร่างกายหลายครั้ง โดยหลังเกิดเหตุ บริษัทจัดหางานได้พาตัวผู้อนุบาลกลับไปโดยไม่มีการชี้แจง และไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ทางครอบครัวจึงตัดสินใจได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจและกองแรงงาน
==เหยาอี่เหวิน//หัวหน้าฝ่ายแรงงานต่างชาติ กองแรงงาน นครไทจง==
(ผู้อนุบาล) โทษร้ายแรงที่สุดคือการถูกเนรเทศ
และห้ามทำงานในไต้หวันอีกต่อไป
หากพบทำร้ายร่างกายจริง ผู้อนุบาล+เอเยนต์ ต้องเจอโทษปรับ
หากพบว่ามีการทำร้ายร่างกายจริง ผู้อนุบาลจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยสวัสดิการผู้สูงอายุ โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 30,000-150,000 เหรียญไต้หวัน นอกจากโทษทางอาญาแล้ว ยังจะถูกเนรเทศและห้ามทำงานในไต้หวันอีก ขณะที่บริษัทจัดหางานก็ต้องเผชิญโทษปรับตั้งแต่ 60,000-300,000 เหรียญไต้หวัน