ไทยจัดเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ แคนดิเดตนายกฯรุ่นใหม่คว้าคะแนนนิยมสูงสุด

จากการสำรวจคะแนนนิยมในศึกเลือกตั้ง 2566 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยและพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกลได้รับคะแนนนิยมนำโด่ง ทิ้งห่างผู้สมัครคนอื่นๆ

โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ได้นายกฯคนใหม่

ผู้สมัครจากทุกพรรคออกหาเสียงกันอย่างคึกคัก (จับมือทักทายประชาชน ขอคะแนนเสียง) นี่เป็นโค้งสุดท้ายในการหาเสียง ก่อนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 ที่นั่ง เพื่อนำไปสู่การเลือกนายกฯคนใหม่

แพทองธารเพิ่งให้กำเนิดลูกชาย สัญลักษณ์ของคนรุ่นใหม่จากพรรคเพื่อไทย

แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยวัย 37 ปี จบการศึกษาจากอังกฤษ และมีพื้นฐานครอบครัวบนเวทีการเมืองมานาน ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ คุณพ่อและคุณอาของเธอ ก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี หากเธอได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี จะเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยแก้ไขรัฐธรรมนูญและยังทำให้ตระกูลชินวัตรจะกลับมาสู่เวทีการเมืองอีกครั้งด้วย ก่อนหน้านี้ เธอโพสต์รูปลูกชายแรกเกิดบนโซเชียลมีเดีย และพรรคเพื่อไทยยังสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี ซึ่งทำให้แพทองธารเชื่อมโยงกับผู้หญิงและผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น

คะแนนพุ่ง! พิธา แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกลความหวังของคนรุ่นใหม่

พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นอีกหนึ่งผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ ปีนี้พิธาอายุ 43 ปี เรียนต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็ก และทำธุรกิจของตนเอง พิธาเข้าร่วมพรรคในปี 2561 และได้รับเลือกเป็นส.ส.ในปีถัดมา คนรุ่นใหม่หวังว่านโยบายของพรรคก้าวไกล จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง และประเทศไทยจะมีประชาธิปไตยที่มั่นคง ซึ่งพรรคมุ่งประเด็นไปที่ตัวนโยบาย ไม่ใช่ตัวนักการเมือง

กลุ่มนักศึกษาสนับสนุนนโยบายแก้กฎหมาย ม.112

มหาวิทยาลัยรังสิตเผยผลสำรวจ คน Gen Z 1,050 คน เมื่อเดือนมีนาคม พบว่ามีนักศึกษาสนับสนุน พิธา เป็นนายกฯ อยู่ที่ 29.2% ตามด้วย แพทองธาร 23% ส่วน ประยุทธ์ นายกฯคนปัจจุบัน ได้เพียง 1.3% ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยครองคะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกมาตลอด นโยบายการแก้ไขกฎหมาย ม.112 ของพรรคก้าวไกลทำให้ได้คะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ หนึ่งในปัจจัยสำคัญ เช่น ชลธิชา แจ้งเร็ว ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคก้าวไกล วัย 30 ปี หนึ่งในแกนนำม็อบนักศึกษาในปี 2563 และเธอถูกดำเนินคดีอาญามาตรา 112 ทั้งสิ้น 28 ข้อหา เนื่องจากเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันฯ

วัยรุ่น Gen Z รวมตัวกันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง หวังเปลี่ยนแปลงประเทศ

อัตราการออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งในปี 2562 อยู่ที่ 74.84% ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน 52 ล้านคน 85% ของกลุ่ม Generation Z ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 26 ปี จะไปลงคะแนนเสียง แม้ว่ากลุ่มนี้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่หากพวกเขารวมตัวกัน ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน