คนรุ่นใหม่หันมาทำงานพาร์ทไทม์ เงินเดือนสูงกว่าพนักงานประจำเกือบ 5 พัน

ตามการสำรวจจากแพลตฟอร์มงานพาร์ทไทม์ พบว่าในปี 2567 เยาวชนจำนวนมากหันไปทำงานพาร์ทไทม์แทนงานประจำ หากนำค่าแรงรายชั่วโมงมาคิดเป็นเงินเดือน จะเฉลี่ยอยู่ที่ 33,440 เหรียญไต้หวัน ซึ่งสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำต่อเดือน 4,850 เหรียญไต้หวัน แนวโน้มดังกล่าวอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาชีพในอนาคต
คนรุ่นใหม่เลือกทำงานพาร์ทไทม์แทนงานประจำ
ในช่วงบ่ายคุณหวัง นั่งจัดการงานที่ปรึกษาการตลาดที่ได้รับมอบหมาย พอถึงเวลา เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปทำงานพาร์ทไทม์ช่างไฟฟ้า รายงานของเว็บไซต์หางานพาร์ทไทม์ระบุว่า ตลาดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาทำงานพาร์ทไทม์มากกว่างานประจำเช่นเดียวกับคุณหวัง
==คุณหวัง // พนักงานพาร์ทไทม์==
ถ้าคุณทุ่มเททำงานเป็นรายชั่วโมง
คุณก็จะมีความยืดหยุ่นและอิสระมากขึ้น
และไม่ต้องแบกรับความรับผิดชอบของงานประจำ
อีกทั้งรายได้ก็จะสูงกว่า
เปรียบเทียบเงินเดือน งานพาร์ทไทม์ได้มากกว่างานประจำเกือบ 5,000
ในไต้หวัน ค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบันอยู่ที่ 28,590 เหรียญไต้หวันต่อเดือน และค่าจ้างรายชั่วโมงอยู่ที่ 190 เหรียญไต้หวัน ดังนั้น หากคิดจากชั่วโมงทำงานปกติของพนักงานประจำที่ 176 ชั่วโมง จะได้ค่าจ้างรายเดือนแบบรายชั่วโมงสูงถึง 33,440 เหรียญไต้หวัน ซึ่งสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำถึง 4,850 เหรียญไต้หวัน
จำนวนผู้ว่าจ้างแบบพาร์ทไทม์เพิ่มขึ้น 66% ความต้องการตลาดเพิ่มขึ้น
เนื่องจากอัตราการเกิดต่ำส่งผลให้งานบางประเภทขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง แต่ในขณะเดียวกันมีงานบางอย่างไม่อาจรองรับลูกจ้างแบบประจำได้ ทำให้มีแรงงานจำนวนมากเข้าสู่ตลาดพาร์ทไทม์ ในปี 2567 ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ที่เป็นลูกจ้างพาร์ทไทม์เพิ่มขึ้นถึง 66% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ก็เพิ่มขึ้น 54% แสดงว่ามีผู้ต้องการหางานแบบพาร์ทไทม์เพิ่มขึ้น
==รศ. ซินปิ่งหลง // สถาบันวิจัยการพัฒนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน==
ในช่วงเวลานี้ หากกิจการต้องการเติบโต
จะต้องปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลง
ตามนิยมของคนรุ่นใหม่
ตลาดแรงงานแบบดั้งเดิมกำลังเผชิญความท้าทาย ธุรกิจต้องดึงดูดพนักงาน
ตลาดแรงงานแบบดั้งเดิมกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง เช่น แรงจูงใจจากเงินรางวัลหรือเงินโบนัสสิ้นปีลดลง ธุรกิจที่ต้องการรักษาพนักงานไว้จึงจำเป็นต้องเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่าเพื่อดึงดูดพนักงานของตน