กลุ่ม ปชช. เสนอยกเลิก "สิทธิ์พี่น้องแบ่งมรดก" รัฐฯ-ฝ่ายค้านเห็นด้วย

ตามกฎหมายมรดกไต้หวัน ยังคงมีข้อกำหนดให้พี่น้องผู้เสียชีวิตได้รับส่วนแบ่งจากทรัพย์สินบางส่วน อย่างไรก็ตามล่าสุดองค์กรภาคประชาชนได้ออกมาเสนอให้ยกเลิก โดยมีการรวบรวมรายชื่อสนับสนุน และได้รับการตอบรับจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน กระทรวงยุติธรรมเผย มีการเริ่มให้ผู้เชี่ยวชาญศึกษาประเด็นนี้แล้ว และอาจเริ่มแก้กฎหมายได้ช่วงต้นปีหน้า

กลุ่ม ปชช. เสนอยกเลิก "สิทธิ์พี่น้องแบ่งมรดก" เกือบ 8,000 คน เห็นด้วย

การแบ่งมรดก คือความเจ็บปวดที่หลายครอบครัวไม่อยากพูดถึง องค์กรภาคประชาชนได้รณรงค์ให้ยกเลิก “สิทธิ์ในการแบ่งมรดกของพี่น้องร่วมสายเลือด” เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1223 ลบข้อ 4 ซึ่งกำหนดให้พี่น้องได้รับ 1 ใน 3 ของส่วนที่ควรได้ ปัจจุบันมีผู้สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าวเกือบ 8,000 คนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนให้ความสนใจกับประเด็นการแบ่งมรดกอย่างมาก

==คุณซุน // พลเมืองกรุงไทเป==
ผมเห็นด้วยว่าให้มีการยกเลิก
เงิน ผมเป็นคนหามา
ผมอยากจะให้ใคร ก็ให้คนนั้น

==คุณจาง // พลเมืองนครเถาหยวน==
พี่น้องบางครอบครัวก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น
หรือพี่น้องบางคน
ก็ไม่ได้ตั้งใจทำงาน
มีสิทธิ์อะไรมาแบ่งมรดก

"สิทธิ์พี่น้องรับมรดก" จำกัดเสรีภาพพินัยกรรม ทำครอบครัวแตกแยก

ข้อเสนอขององค์กรภาคประชาชนระบุว่า “สิทธิ์พี่น้องร่วมสายเลือกแบ่งมรดก” ล้าสมัย ไม่เข้ากับสังคมยุคใหม่ เพราะจำกัดเสรีภาพในการทำพินัยกรรมของผู้เสียชีวิต และมักก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือการฟ้องร้องในครอบครัว นอกจากนี้ กฎหมายปัจจุบันยังสร้าง “สิทธิ์สืบทอดทางเดียว” ซึ่งเหมือนเป็นการลงโทษผู้ที่ยังไม่มีบุตรหรือยังไม่แต่งงาน ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม และขัดต่อแนวทางสากลด้วย

กลุ่ม ปชช. เสนอยกเลิก "สิทธิ์พี่น้องแบ่งมรดก" รัฐฯ-ฝ่ายค้านเห็นด้วย

สส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างเห็นด้วย พร้อมเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย โดยให้ยกเลิก “สิทธิ์ในการแบ่งมรดกของพี่น้องร่วมสายเลือด” ส่วนสิทธิ์ของทายาทอื่นยังคงเดิม

==หวงหมัวซิน / /โฆษกกระทรวงยุติธรรมไต้หวัน==
ตอนนี้เรากำลังประเมินความคืบหน้าของการแก้กฎหมาย
หวังว่าหลังพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้น
จะเริ่มเดินหน้าแก้ไขกฎหมายช่วงต้นปีหน้า

ก.ยุติธรรม:ส่งรายงานสิ้นปีนี้ เริ่มแก้กฎหมายต้นปีหน้า

ประชาชนให้ความสนใจต่อเสรีภาพในการทำพินัยกรรมและการจัดการทรัพย์สินของตนเองอย่างมาก และมีความคิดเห็นที่หลากหลาย จึงต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย กระทรวงยุติธรรมมอบหมายให้นักวิชาการศึกษาและรวบรวมข้อมูลกฎหมายต่างประเทศ คาดเริ่มกระบวนการแก้ไขกฎหมายต้นปีหน้า