ภาษีตอบโต้ อุตสาหกรรมพลาสติก เครื่องจักรกล เกษตรประมงเดือดร้อน

สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตอบโต้จากไต้หวันในอัตรา 20% ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมพลาสติก เครื่องมือเครื่องจักร รวมถึงภาคเกษตรและประมง เช่น ดอกกล้วยไม้และปลากระบอก คาดแรงงานประมาณ 42,000 คน อาจเสี่ยงถูกปรับลดเงินเดือนหรือตกงาน และมูลค่าการผลิตอาจลดลงมากกว่า 1.6%

ภาษีตอบโต้มีผลแล้ว อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์หวั่นมีปัจจัยแทรกซ้อนเพิ่ม

เม็ดพลาสติกถูกให้ความร้อน ก่อนจะผ่านแม่พิมพ์ขึ้นรูป จากนั้นก็เริ่มประกอบเป็นชิ้นส่วน ชิ้นส่วนรถยนต์ชุดนี้ หลังจากผลิตเสร็จในวันนี้ จะต้องจัดส่งให้โรงงานคู่ค้าทันทีในวันรุ่งขึ้น ภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมตามเวลาไต้หวัน ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งจัดส่งสินค้า เพราะเกรงว่าจะมีตัวแปรอื่นๆอีก

==เจิ้งลี่สง // ผู้จัดการทั่วไปบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์==
การรับรองผลิตภัณฑ์แต่ละตัวใช้เวลาหลายปี
ลูกค้าไม่มีทางจะไปซื้อของจากที่อื่น
ถ้าเขาหาแหล่งอื่นได้
ก็หมดสิทธิ์เล่นในตลาดนี้อีก 20 ปีเลย

ระหว่างการเจรจา อุตสาหกรรมรถยนต์เกรงรัฐบาลอาจยอมถอย

ผู้ประกอบการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่ใช่แค่สินค้าในกลุ่มพลาสติก แต่สินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ จะต้องถูกเก็บภาษี 20% หากรัฐบาลนำอุตสาหกรรมรถยนต์ไปใช้เป็นเงื่อนไขต่อรอง ซึ่งอาจส่งผลให้ทั้งอุตสาหกรรมล่มสลาย สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การย้ายฐานการผลิตเพื่อหลบเลี่ยงภาษียิ่งทำได้ยาก

ภาษี 20% กระทบแรง เกษตรกรกล้วยไม้คาดยอดขายในสหรัฐลด 15-20%

ผลกระทบไม่ได้จำกัดแค่อุตสาหกรรมประเภทเดียวเท่านั้น ปี 2024 การส่งออกกล้วยไม้ของไต้หวันมีมูลค่าถึง 6.1 พันล้านเหรียญไต้หวัน ขณะนี้ผู้ประกอบการประเมินว่า สถานการณ์เลวร้ายที่สุดคืออาจต้องร่วมรับแบ่งภาระภาษีกับลูกค้าในสหรัฐฯ กำไรหายหมด

==หลี่ชางอวี้ // เกษตรกรกล้วยไม้==
กำไรเราคิดไว้แค่ 5%-10% เอง
ถ้าเก็บภาษี 20% กำไรทั้งหมด
ก็หายเกลี้ยงเลย

คณะรัฐมนตรีประกาศมาตรการช่วยเหลือ เปิดให้ยื่นคำขอแล้ววันนี้

อุตสาหกรรมกังวลกันอย่างหนัก รัฐบาลกลางจึงออกงบประมาณพิเศษเพื่อรองรับสถานการณ์ โดยเพิ่มวงเงินโครงการสนับสนุนอุตสาหกรรมเป็น 93,000 ล้านเหรียญไต้หวัน และเปิดให้ยื่นคำขอรับการช่วยเหลือได้ทันทีตั้งแต่วันนี้
 

相關新聞