รัฐบาลทหารเมียนมาถอยร่น เกณฑ์ทหารเพิ่ม หนุ่มสาวหลบหนี

คุณผู้ชมค่ะ สงครามกลางเมืองในเมียนมายังคงเลวร้าย กองกำลังชาติพันธุ์ที่จับมือกันต่อสู้ ภายใต้ชื่อ พันธมิตรสามภราดรภาพ ซึ่งได้เริ่มต่อต้านรัฐบาลทหารในเขตภาคเหนือของเมียนมา มาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ส่งผลให้รัฐบาลต้องขยายการเกณฑ์ทหาร จนทำให้มีกลุ่มเยาวชนเมียนมาจำนวนไม่น้อยหาทางหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย

กองกำลังต่อต้านขยายกำลังและควบคุมเมืองมากกว่าครึ่งหนึ่งในรัฐยะไข่

พันธมิตรสามภราดรภาพ (Three Brotherhood Alliance) กองกำลังต่อต้านของเมียนมาได้ต่อสู้กับกองกำลังของรัฐบาลอย่างดุเดือด มีการเผยแพร่ภาพกองกำลังของรัฐบาลพ่ายแพ้และยอมจำนนทางโซเชียลด้วย

รบ.เกณฑ์โรฮิงญาเข้ากองทัพ ปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง

กองกำลังของรัฐบาลซึ่งกำลังล่าถอยอย่างต่อเนื่อง เริ่มเกณฑ์ชาวโรฮิงญาอย่างผิดกฎหมายและส่งพวกเขาเข้าสู่สนามรบ เดิมทีชาวโรฮิงญาเป็นกลุ่มชายขอบที่ไม่มีสิทธิการเป็นพลเมืองในเมียนมา และประสบปัญหาถูกเลือกปฏิบัติ กำลังเผชิญวิกฤตความอยู่รอดครั้งใหญ่ จนกลายเป็นการอพยพระลอกใหม่ในเดือน พ.ค

รัฐบาลทหารถอยร่น เกณฑ์ทหารเพิ่ม หนุ่มสาวหลบหนี

ความเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงทำให้ชาวโรฮิงญาต้องหลบหนีเท่านั้น แต่ยังทำให้เยาวชนเมียนมาต้องหาทางหนีออกจากประเทศด้วย เนื่องจากรัฐบาลขยายการเกณฑ์ทหารในเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ชายอายุ 18 - 35 ปี และผู้หญิงอายุ 18 - 27 ปีต้องเป็นทหารอย่างน้อยสองปี มีเยาวชนมากกว่า 13 ล้านคนที่เข้าเกณฑ์ต้องเกณฑ์ทหาร และในปีนี้มีแผนจะเกณฑ์ทหารถึง 60,000 คน สร้างความตื่นตระหนก คนหนุ่มสาวจำนวนมากหาโอกาสที่จะหลบหนีไปยังประเทศไทย

==เยาวชนเมียนมา ==
เรากลัว
เพราะกองทัพจะมาที่บ้านเรา
หาคนที่สามารถรับราชการในกองทัพได้
เราไม่อยากเป็นทหาร

ชายแดนไทย-เมียนมาควบคุมเข้มงวด อนุญาตขนส่งสิ่งของเท่านั้น

พรมแดนระหว่างไทยและเมียนมามีเพียงแม่น้ำกั้นระหว่างกันทำให้ง่ายต่อการหนีข้ามแดน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้ป้องกันการหลบเข้ามาของผู้ลี้ภัยอย่างเคร่งครัด และอนุญาตให้ขนส่งของและเวชภัณฑ์เท่านั้น โดยอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพไทย

กองทัพเมียนมาเกณฑ์ทหาร วิกฤติสงครามกลางเมืองไม่มีที่สิ้นสุด

สงครามกลางเมืองครั้งนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว กลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพได้เปิดฉากกวาดล้างอาชญากรฉ้อโกงและต่อสู้กับกองกำลังของรัฐบาลทางตอนเหนือของเมียนมา ซึ่งกองกำลังของรัฐบาลเมียนมาร์สูญเสียไปหลายพันคน แต่เพื่อรักษาอำนาจ รัฐบาลพร้อมสละอนาคตของคนรุ่นใหม่ สื่อต่างประเทศถูกปิด และสงครามกลางเมืองยังไม่สิ้นสุด