รวบชายต้องสงสัย ฉุดสาวกลางกรุงไทเป

หลังจากเกิดคดีล่วงละเมิดทางเพศที่สถานีรถไฟไทเป ล่าสุดคืนวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าเกิดเหตุชายพยายามฉุดหญิงสาวที่อยู่ลำพังกลางกรุงไทเป แต่เคราะห์ดีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือทันเวลา ตำรวจได้รับแจ้งและนำตัวผู้ก่อเหตุส่งดำเนินคดี กลุ่มองค์กรสตรีเรียกร้องให้การรถไฟไต้หวันติดตั้งอุปกรณ์ขอความช่วยเหลือ เช่น ปุ่มฉุกเฉินและป้ายแจ้งเหตุแบบเร่งด่วน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร

ชายฉุดข้อมือสาวกลางกรุง โชคดีพลเมืองดีช่วยทัน!

เมื่อคืนวันที่ 14 ตุลาคม เวลาประมาณสี่ทุ่ม หญิงรายหนึ่งออกไปทิ้งขยะ แต่กลับถูกชายแปลกหน้าฉุดข้อมือ หญิงสาวตกใจกรีดร้องเสียงดัง โชคดีที่พลเมืองดีช่วยไว้ได้ทัน หลังได้รับแจ้ง ตำรวจก็รีบเข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทันที จากการสอบสวนพบว่า ชายที่ก่อเหตุเป็นคนไร้บ้าน ขณะก่อเหตุ มีอาการเมากาว สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เหตุละเมิดในสถานีรถไฟไทเป กลุ่มสตรี : ระบบขอความช่วยเหลือไร้ประสิทธิภาพ

ช่วงที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุล่วงละเมิดทางเพศในโถงกลางสถานีรถไฟไทเป จุดกระแสถกเถียงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับประเด็นความปลอดภัยในที่สาธารณะ กลุ่มสตรีตั้งคำถามว่า เหตุใดคนร้ายถึงได้กล้าลงมือก่อเหตุในที่ที่มีคนพลุกพล่านเช่นนี้ พร้อมทั้งวิจารณ์การเข้าช่วยเหลือที่ล่าช้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาด้านความปลอดภัยภายในสถานี และความบกพร่องของระบบขอความช่วยเหลือ

==คุณหวัง ประชาชน==
ถ้ามีปุ่มขอความช่วยเหลือก็รีบกดเลย ถ้าไม่มีก็โทรแจ้งตำรวจ
รีบเข้าไประงับเหตุก่อน

การรถไฟไต้หวันจับมือกองบังคับการตำรวจรถไฟจัดประชุมความปลอดภัย

การรถไฟจับมือกองบังคับการตำรวจรถไฟ จัดการประชุมความร่วมมือ เพื่อเสริมความปลอดภัยภายในสถานีไทเป โดยมีแนวทางสำคัญ ได้แก่ การเสริมกำลังเจ้าหน้าที่และเพิ่มจุดเฝ้าระวัง การจัดตั้งเครือข่ายความปลอดภัย ตั้งทีมดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ตลอดจนการประสานงานกับเทศบาลกรุงไทเป เพื่อเสริมมาตรการให้คำปรึกษาและจัดหาที่พักอาศัยแก่ผู้ไร้บ้าน

==เจิงจวิ้นเหว่ย // หัวหน้านักสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิช่วยเหลือสตรี==
ถ้ามั่นใจแล้วว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อตัวเอง
สามารถตะโกนขอความช่วยเหลือ
ขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ใกล้ๆ
หรือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแจ้งตำรวจได้

กลุ่มสตรี : การรถไฟไต้หวันต้องเสริมการตรวจตราและระบบช่วยเหลือ

กลุ่มสตรีกล่าวว่า นอกจากการรถไฟไต้หวัน จะต้องเสริมความเข้มงวดในการตรวจตราและให้ความช่วยเหลือแล้ว ยังเห็นว่า รัฐบาลควรให้ความรู้และรณรงค์ให้ประชาชนมีน้ำใจและห่วงใยกันในที่สาธารณะ หากมั่นใจแล้วว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อตัวเอง สามารถร้องตะโกนขัดขวาง หรือโทรศัพท์แจ้งตำรวจ เพื่อยุติเหตุร้ายได้อย่างทันท่วงที