โดนัลด์ ทรัมป์ แต่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยังคงแข็งแกร่ง บริษัทในแคนาดาได้จัดอันดับ 50 บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดย 3 อันดับแรกได้แก่ Microsoft Apple และ NVIDIA ส่วนบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเอเชียคือ TSMC อยู่ในอันดับที่ 10 ของโลก
ความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมทั่วโลกยังคงเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในเวทีเศรษฐกิจโลก ล่าสุด Visual Capitalist บริษัทสื่อดิจิทัลด้านการเงินและเศรษฐกิจจากประเทศแคนาดา ได้เผยแพร่กราฟิกจัดอันดับ 50 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก ผลปรากฏว่า 8 ใน 10 อันดับแรกเป็นบริษัทจากสหรัฐฯ ทั้งหมด โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ Microsoft, Apple และ NVIDIA ขณะที่บริษัทจากเอเชียที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือบริษัทไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์ หรือ TSMC ซึ่งครองอันดับที่ 10 ของโลก
==เฉินจื่ออั้ง//นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมอาวุโส==
ประการแรกคือ สถานะในระดับนานาชาติ
เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงของ TSMC
คิดเป็นสัดส่วนถึง 90% ของทั้งโลก
ประการที่สองคือ ศักยภาพในการเติบโต
รายได้ของ TSMC เติบโตขึ้น 20% ถึง 30% ต่อปี
แม้ TSMC ลงทุนในสหรัฐฯ จะมีข้อกังวล แต่สถานะในเวทีโลกยังมั่นคง
TSMC มีมูลค่าตลาดเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น หลังขยายการลงทุนในสหรัฐฯ แต่สถานะในเวทีโลกของบริษัทก็ยังคงมั่นคง จากข้อมูลล่าสุด พบว่า นายเหว่ยเจ๋อเจีย ประธานบริษัท TSMC ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทจำนวน 20,000 หุ้นในช่วงราคาตกต่ำเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยคาดว่าใช้เงินประมาณ 16.82 ล้านเหรียญไต้หวัน
==อู๋เยว่จ่าน//นักวิเคราะห์ตลาดหุ้น==
นั่นหมายความว่า
ประการแรกเขาน่าจะมั่นใจมาก
ในการเจรจาด้านเซมิคอนดักเตอร์
การที่เขาซื้อหุ้นของบริษัทตนเอง
แปลว่าค่อนข้างมั่นใจใน TSMC
ต่างชาติเร่งลงทุนในอุตสาหกรรม AI คุมเกมห่วงโซ่อุปทาน
นายเจนเซน หวง (Jensen Huang) ผู้ก่อตั้งบริษัท NVIDIA กำลังจะเดินทางเยือนไต้หวันเพื่อร่วมงาน Computex งานแสดงสินค้าคอมพิวเตอร์ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติแห่ซื้อหุ้นไต้หวันจำนวนมากถึง 78,050 ล้านเหรียญไต้หวัน โดยหุ้นที่ถูกซื้อเกินเป้าล้วนเป็นหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI อย่าง TSMC และ Foxconn ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการยึดครองตำแหน่งในตลาด