เมื่อเร็วๆ นี้ สปป.ลาว วางแผนที่จะสร้างเขื่อนในหลวงพระบาง ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก หากสร้างเขื่อนแล้ว ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระบบนิเวศลุ่มน้ำโขงและประเทศปลายน้ำเช่น เวียดนาม ไทย และกัมพูชา
ยูเนสโกเตือนส่อถอดเมืองหลวงพระบางหลุดเมืองมรดกโลก
'หลวงพระบาง'สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)คือเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เพลิดเพลินไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นแต่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ในอนาคตอาจหลุดมรดกโลกจากการสร้างเขื่อนหลวงพระบางที่ทำให้วิถีชีวิตผู้คนเปลี่ยนไป
สร้าง"เขื่อนหลวงพระบาง"ส่งผลต่อระบบนิเวศลุ่มน้ำโขง
รถบรรทุกหลายคันบนฝั่งเข้าออกเมื่อโครงการก่อสร้าง'เขื่อนหลวงพระบาง'เริ่มขึ้นและเขื่อนอื่นๆที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขงอาจเป็นอันตรายส่งผลต่อระบบนิเวศและเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น
==Hermitage//ศาสตราจารย์ด้านภูมิศาสตร์มนุษย์วิทยา ของมหาวิทยาลัยซิดนีย์==
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ชายฝั่งบริเวณเขื่อนหลวงพระบาง
มากกว่า 20 หมู่บ้านจะไม่มีอยู่อีกต่อไป
และไม่อาจมีวิถีชีวิตเช่นในอดีตได้
ทั้งยังไม่อาจส่งสินค้าเกษตรไปขายในเมืองได้อีกด้วย
เสี่ยง! UNESCO พิจารณาหลวงพระบาง อาจหลุด "มรดกโลก"
รัฐบาล สปป.ลาวทุ่มงบหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างเขื่อนโดยหวังว่าจะแก้ปัญหาดินโคลนสะสมที่ปลายน้ำ และจะใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานน้ำนอกจากความวิตกของชาวบ้านแล้ว ยังเสี่ยงที่จะถูกถอดออกจากบัญชีเมืองมรดกโลกและชาวบ้านจำนวน 20 หมู่บ้านตามแนวชายฝั่งจะถูกบังคับให้ย้ายออกไป
"เขื่อนหลวงพระบาง"สูญเสียธรรมชาติที่สวยงาม
การประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การยูเนสโกจะหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ในการประชุมในเดือนกรกฎาคมปีนี้ หลวงพระบาง เป็นเมืองหลักของแขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว มีประวัติที่ยาวนานดึงดูดนักท่องเที่ยวสามารถทำให้เพลิดเพลินกับความงามริมฝั่งแม่น้ำโขงแต่ภายหลังการสร้างเขื่อนในอนาคตสิ่งเหล่านี้อาจสูญหายไป
ประเทศเพื่อนบ้านหวั่นผลกระทบจากการสร้าง"เขื่อนหลวงพระบาง"
ยิ่งไปกว่านั้น ห่างจากบริเวณที่สร้างเขื่อนไม่ถึง10กิโลเมตร เป็นแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลก ซึ่งกัมพูชาและเวียดนาม ได้ขอให้ลาวสำรวจประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นด้วย