จากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากเขื่อนธรรมชาติในฮัวเหลียน สำนักงานป่าไม้เผยพบการขยายตัวของเขื่อนตั้งแต่ปลายเดือนก.ค. และได้เริ่มอพยพประชาชนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. เพื่อรับมือกับพายุและฝนตกหนักที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตาม สังคมก็มีการตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่มีการดำเนินการใดๆ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา นักวิชาการเผย บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทุรกันดาร ทำให้การนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าไปเป็นเรื่องยาก และการระเบิดเพื่อทำลายเขื่อนก็มีความเสี่ยงสูง
ทะเลสาบขนาด 140 เฮกตาร์ ปริมาณน้ำเทียบเท่าเขื่อนหนานฮั่ว
ฝนตกหนักจากไต้ฝุ่น ส่งผลให้ช่วงต้นแม่น้ำหม่าไท่อันเกิดดินถล่มปิดกั้นทางน้ำ จนเกิดเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติแห่งนี้ขึ้นมา กรมป่าไม้อ้างอิงข้อมูลภาพจากดาวเทียม พบว่าช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ทะเลสาบได้ขยายตัวจาก 18 เฮกตาร์ เป็น 140 เฮกตาร์ (ก่อนเกิดเหตุสันดินกั้นน้ำพังทลายเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568) โดยมีปริมาณน้ำสูงถึง 91 ล้านตัน ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณน้ำในเขื่อนหนานฮั่ว จึงทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ใช้ระเบิดเปิดทางน้ำตั้งแต่แรก
==หลี่หงหยวน // อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย==
เป็นไปไม่ได้ๆ ถ้าใช้ระเบิดล่ะก็
ระเบิดแรงขนาดนั้น อาจส่งผลกระทบ
เกินกว่าที่เราจะควบคุมได้
ผู้เชี่ยวชาญ:ใช้ระเบิดไม่ได้! เสนอ อพยพ ปชช.
เมื่อสองสัปดาห์ก่อน กระทรวงมหาดไทยไต้หวันได้เปิดประชุมด่วน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือกับทะเลสาบตามธรรมชาติดังกล่าว หลังการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่ามาตรการทางวิศวกรรม เช่น การระเบิดเพื่อเปิดทางระบายน้ำ ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงเสนอให้ขยายพื้นที่อพยพ จากเดิมสั่งอพยพเฉพาะประชาชนโดยรอบแม่น้ำหม่าไท่อัน ให้รวมถึงตำบลกวางฟู่ด้วย หากไม่อพยพล่วงหน้า ความเสียหายอาจรุนแรงกว่านี้
ทำไมไม่มีแนวป้องกันชั้นที่สองหรือพื้นที่บรรเทาล่วงหน้า?
แม้ประชาชนจะอพยพออกจากพื้นที่แล้ว แต่หลายฝ่ายยังคงตั้งข้อสงสัยว่า การไม่มีแนวป้องกันชั้นที่สอง หรือ พื้นที่บรรเทาน้ำท่วมล่วงหน้า เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรง ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำไต้หวันชี้แจงว่า ปริมาณน้ำในครั้งนี้ สูงกว่ามาตรฐานการออกแบบลำน้ำทั่วไปถึง 4 เท่า
==หลี่หรงฟู่ // ผอ. กอง สำนักงานทรัพยากรน้ำ กระทรวงเศรษฐการไต้หวัน==
ปริมาณน้ำในครั้งนี้สูงมากจริงๆ
แถมยังไหลเชี่ยวด้วย
น้ำมากและแรงขนาดนี้
รับไม่ไหวหรอก
24 ก.ย. 68 ทางการสั่งอพยพ ปชช. ออกจากพื้นที่รวม 3,285 คน
เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำฝนสะสมจะส่งผลให้น้ำในทะเลสาบเอ่อล้นตลิ่ง วันที่ 22 กันยายน หนึ่งวันก่อนเกิดเหตุสันดินกั้นน้ำพังทลาย กรมป่าไม้ไต้หวันได้ออกประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุด และเสนอให้เทศบาลเมืองฮัวเหลียนสั่งการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยด่วน จนถึงวันที่ 24 กันยายน มีประชาชนอพยพแล้วรวมทั้งสิ้น 3,285 คน