โครงการขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากสถานีหนานกังไปยังเมืองอี๋หลาน รวมระยะทาง 60.6 กิโลเมตร หลังเป็นที่ถกเถียงกันมานานหลายปี เมื่อวานนี้ (20 ส.ค. 68) ได้ผ่านการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะมีกลุ่มผู้คัดค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า การขยายรถไฟความเร็วสูง อาจกระทบต่อการรถไฟ ทำให้เสียประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ขณะที่ ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวังว่า โครงการจะได้รับการอนุมัติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนในเมืองอี๋หลาน สามารถเดินทางไป-กลับบ้านได้ภายในวันเดียว
เครือข่ายต่อต้านโครงการรถไฟความเร็วสูงอี๋หลานเผย ได้ไม่คุ้มเสีย
ตัวแทนผู้คัดค้านโครงการขยายรถไฟความเร็วสูงไปอี๋หลานรวมตัวหน้ากระทรวงสิ่งแวดล้อม เรียกร้องให้ระงับการพิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงเพ้อฝัน พร้อมเผยว่า แม้รถไฟความเร็วสูงจะย่นระยะเวลาเดินทาง แต่ก็ต้องเสียเวลารอขบวนรถรวมถึงเวลาในการเปลี่ยนขบวนด้วย โดยสามารถพิจารณาได้จากการเปลี่ยนขบวนจากสถานีรถไฟซินอูรื่อ (新烏日) ไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงไทจง หรือการเปลี่ยนขบวนจากสถานีรถไฟซาหลุน (沙崙) ไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงไถหนานที่ดำเนินมานานกว่า 10 ปี ซึ่งยากที่จะ “ต่อรถ” ได้โดยไร้รอยต่อ
==คังฟางหมิง//ผู้ประสานงานกลุ่มผู้ติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงอี๋หลาน==
เวลาที่เสียไปกับการเปลี่ยนขบวนรถ
จะประหยัดเวลาไป 24% ได้อย่างไร
เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ หลอกลวงชัดๆ
ลุ้น ทปช. ผลกระทบสิ่งแวดล้อมครั้งสุดท้าย เที่ยวอี๋หลานวันเดียว
อย่างไรก็ตาม รักษาการผู้ว่าเทศบาลเมืองอี๋หลานเผยในที่ประชุมพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมว่า ชาวอี๋หลานต่างรอคอยโครงการนี้อย่างมาก ตอนนี้โค้งสุดท้ายแล้วผู้แทนจากอี๋หลานได้เดินทางขึ้นไทเป เพื่อนำเสียงสนับสนุนของประชาชนไปเสนอต่อที่ประชุม
==หลินลี่//ส.จ.อี๋หลาน==
นี่เป็นโครงการที่จะต้องดำเนินการ
โครงการสำคัญในศตวรรษ
รถไฟความเร็วสูงจะเชื่อมต่ออี๋หลานกับทั่วไต้หวัน
โดยใช้เวลาเดินทางเพียงวันเดียวได้
ขยาย รฟ.ความเร็วสูงไปอี๋หลาน 60.6 กม. เลี่ยงอ่างเก็บน้ำ
โครงการขยายรถไฟความเร็วสูงไปอี๋หลานรวม 60.6 กม. เป็นงานก่อสร้างใหม่ 59.6 กม. เริ่มต้นจากชานชาลาใต้ดินของสถานีหนานกั่ง ไปสิ้นสุดที่ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของที่ว่าการอี๋หลาน เลี่ยงพื้นที่อ่างเก็บน้ำเฝ่ยชุ่ย (翡翠水庫集水區) รวมระยะเวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
แผนสร้างทางยกระดับเชื่อมต่อสถานี คาดพร้อมใช้หลังอนุมัติ 11 ปี
กรมการรถไฟเผยว่า โครงการก่อสร้างทางยกระดับนี้ จะเพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อรถไฟทั้งสองประเภท หลังผ่านการพิจารณาในที่ประชุมพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว จะต้องเสนอต่อสภาบริหาร หวังว่าจะได้รับการอนุมัติภายในสิ้นปีนี้หรือช่วงต้นปีหน้า จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการประกวดราคาก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ ภายใน 11 ปีหลังการอนุมัติ