สหรัฐฯ ประกาศภาษีชั่วคราว 20% ต่อไต้หวัน และในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการลดหย่อนภาษีดังกล่าวหรือไม่ อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้บริโภคในไต้หวันแสดงความเป็นห่วงว่าสหรัฐฯ อาจใช้ประเด็นนี้เป็นเครื่องต่อรอง กดดันให้ไต้หวันผ่อนปรนการนำเข้าเครื่องในวัว เนื้อบด และไตหมูที่มีปริมาณสารกระตุ้นเนื้อแดง จึงเรียกร้องให้รัฐบาลระบุฉลากแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ให้ชัดเจน เพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภค
ไต้หวันเล็งผ่อนปรนเนื้อวัว-หมูมีสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐฯ ต่อรองภาษี
สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีชั่วคราวกับไต้หวัน ในอัตรา 20% เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการเจรจา ล่าสุด มีรายงานว่า ไต้หวันเตรียมนำเข้าเครื่องในวัวและเนื้อบดจากสหรัฐฯ พร้อมพิจารณาผ่อนปรนปริมาณสารเร่งเนื้อแดง (Ractopamine) จากเดิม 0.04 ppm เป็น 0.09 ppm เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และใช้เป็นข้อแลกเปลี่ยนในการเจราภาษี ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้รัฐทบทวนการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพจากสารเร่งเนื้อแดงใหม่ พร้อมเตือนกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจให้หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อหมูที่มีสารดังกล่าว เพื่อความปลอดภัย
==เหยียนจงไฮ่//ผอ.ศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลฉางเกิง สาขาหลินโข่ว==
หากผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ
กินเนื้อสัตว์ที่มีสารเร่งเนื้อแดงในปริมาณมาก
อาจมีอาการหัวใจเต้นเร็ว ภาวะความดันโลหิตสูงขึ้น
และหากกินเป็นเวลานาน ก็อาจเพิ่มความเสี่ยง
ต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
มูลนิธิผู้บริโภคไต้หวัน:รัฐห้ามถอยเรื่องระบุแหล่งที่มา
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มเรียกร้องให้ไต้หวันยกเลิกการระบุแหล่งที่มาของสินค้า ด้านมูลนิธิผู้บริโภคไต้หวัน (CFCT) จัดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่า สหรัฐฯ เคยวิพากษ์วิจารณ์การตรวจสอบสินค้าประเภทอาหารและการตรวจสอบที่ชายแดน โดยมองว่ากระบวนการเหล่านี้เป็นอุปสรรคทางเทคนิคที่ทำให้การค้าซับซ้อนและยุ่งยากขึ้น แต่การระบุแหล่งที่มาถือเป็นสิทธิของผู้บริโภค จึงเรียกร้องให้รัฐบาลไต้หวันยืนหยัดปกป้องจนถึงที่สุด
==อู๋หรงต๋า//กรรมการบริหารมูลนิธิผู้บริโภคไต้หวัน(CFCT)==
ถ้าเอาแหล่งที่มาออกหมด
เราจะตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างไร?
รมว.กระทรวงสาธารณสุขฯ:หากมีความคืบหน้า จะแจ้งให้สาธารณชนทราบ
ในการประชุมสภาฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการของไต้หวัน ไม่ได้ปฏิเสธใด ๆ ระบุเพียงว่า หากมีความคืบหน้าที่ชัดเจน จะแจ้งให้สาธารณชนทราบต่อไป