เข้าสู่ช่วงรับปริญญา นักศึกษาจบใหม่หลายคนเตรียมหางาน แต่จากผลสำรวจของมูลนิธิ Sunshine Social Welfare พบว่า ผู้ที่มีความผิดปกติบนใบหน้ากว่า 50% เคยเผชิญกับการถูกเลือกปฏิบัติ เช่น ถูกถามถึงรอยแผลเป็นหรือปาน มูลนิธิฯ จึงเรียกร้องให้บริษัทและองค์กรต่างๆ เปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความสามารถ ไม่เลือกปฏิบัติตามรูปลักษณ์ภายนอก เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองผิดปกติ AVM มักถูกสังคมเหยียด
นายหลิวจื้อเหริน (劉志仁) อายุ 40 ปี ป่วยด้วยโรคเนื้องอกหลอดเลือดผิดปกติแต่กำเนิด ส่งผลให้ใบหน้าด้านขวาบวมอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงถูกล้อเลียนและมองด้วยสายตาแปลกๆ ตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ ขณะที่เรียนมหาวิทยาลัย เขาได้ไปสมัครงานในร้านปิ้งย่าง เถ้าแก่นอกจากจะไม่ถามถึงอาการป่วยใด ๆ แต่กลับรับเขาเข้าทำงานทันที ทำให้เขาสามารถส่งตัวเองเรียนจนจบ
==หลิวจื้อเหริน//ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองผิดปกติ AVM==
เนื่องจากเป็นร้านปิ้งย่าง แล้วมีถ่านไม้
เขา (เถ้าแก่) ก็ได้อธิบายถึงอันตราย
แล้วก็บอกว่า ไม่เป็นไร
เรามาลองกันก่อนได้
ผู้เสียโฉมเกินครึ่งเผย ถูกเลือกปฏิบัติระหว่างสมัครงาน
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนใบหน้าส่วนใหญ่ไม่ได้โชคดีเช่นนั้น ผลสำรวจของมูลนิธิ Sunshine Social Welfare ในปี 2567 ชี้ว่า ผู้เสียโฉมมากกว่า 50% ต่างเคยถูกเลือกปฏิบัติขณะสมัครงาน เช่น ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับแผลเป็นบนใบหน้า ขณะที่ผลสำรวจปี 2568 ชี้ว่า วัยรุ่นหญิงอายุระหว่าง 18–29 ปี ที่มีมีปัญหาเรื่องหน้าตาเป็นกลุ่มที่ถูกเลือกปฏิบัติมากที่สุด ซึ่งต้องทนรับแรงกดดันการการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมอย่างเห็นได้ชัด
==ซูจิ้งเสียน//ประธานมูลนิธิ Sunshine Social Welfare Foundation==
ไม่ว่ารูปร่างหน้าตาจะเป็นอย่างไร
ทุกคนสมควรได้รับการยอมรับและให้เกียรติ
รวมถึงโอกาสในการไล่ตามความฝัน
และโอกาสในการบรรลุเป้าหมายชีวิต
ผลักดันความเท่าเทียมในที่ทำงาน วอนสังคมเปิดโอกาสแสดงศักยภาพ
มูลนิธิ Sunshine Social Welfare เผยว่า จะเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ “ความเท่าเทียมทางรูปโฉมในที่ทำงาน” อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบโอกาสฝึกงานและจ้างงานแก่ผู้มีความผิดปกติบนใบหน้า พร้อมเรียกร้องให้ภารธุรกิจหยุดปิดกั้นโอกาสการทำงานเนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่หลากหลาย เพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่