ไม่กี่วันก่อนการรถไฟไต้หวันเกิดกรณีพิพาทของผู้โดยสาร โดยชายวัย 70 ปีรายหนึ่งไม่พอใจที่ถูกแย่งที่นั่ง จึงมีปากเสียง และน่าจะมีการชักมีดขึ้นมาขู่ จนทำให้ผู้โดยสารเกิดความตื่นตระหนก การรถไฟชี้ว่า หากตรวจสอบแล้วเป็นความจริง ต้องระวางโทษปรับสูงสุด 1 ล้านเหรียญไต้หวัน
ชายชราไม่พอใจไปสุขากลับมาถูกแย่งที่นั่ง สงสัยควักมีดขู่
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม เกิดกรณีพิพาทระหว่างผู้โดยสารบนรถไฟ โดยชายชราวัย 70 ปีเศษ ไม่พอใจที่ถูกแย่งที่นั่งหลังจากลุกไปเข้าห้องน้ำ จึงมีปากเสียงกับผู้โดยสารรายหนึ่ง โดยชายชรสถูกตั้งข้อสงสัยว่า มีการชักมีดออกมาระหว่างเกิดเหตุ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ผู้โดยสารคนอื่นๆ
==ตำรวจ vs. ผู้ถูกตั้งข้อสงสัยว่าชักมีดออกมา==
คุณเอามีดทั้งเล่มออกมาหรือเปล่า (ไม่นะ)
คุณเอาออกมาทั้งกล่องใช่ไหม
(ใช่ กล่องยังอยู่ตรงนี้)
การรถไฟลั่น หากนำมีดออกมาจริง ปรับสูงสุด 1 ล้านเหรียญไต้หวัน
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุ ก็ได้ขึ้นไปควบคุมตัวชายคนดังกล่าวลงจากรถ โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต การรถไฟไต้หวันระบุว่า หากพบว่ามีการนำมีดออกมาจริง จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 10,000-1,000,000 เหรียญไต้หวัน
เหตุสุ่มทำร้ายคนในระบบขนส่งสาธารณะ ทดสอบการรับมือ
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ระบบขนส่งสาธารณะเกิดเหตุความขัดแย้งและกรณีสุ่มทำร้ายอย่างต่อเนื่อง บางคนเห็นว่า “ความปลอดภัยต้องมาก่อน” ขณะที่บางส่วนมองว่า ควรประเมินศักยภาพของตนเอง ก่อนตอบโต้หรือป้องกันตัว
ใช้ของใกล้ตัวป้องกันตนเอง เสื้อคลุมปกป้องร่างกายได้
ในกรณีที่เกิดเหตุรุนแรงภายในขบวนรถซึ่งเป็นพื้นที่ปิด โค้ชมวยแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการปะทะกับคนร้ายที่มีอาวุธ เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้สิ่งของติดตัวในการป้องกันตนเองได้ อาทิ ใช้ร่มเพื่อรักษาระยะห่าง ใช้กระเป๋าป้องกันการโจมตี หรือนำเสื้อคลุมพันแขนเพื่อลดอันตรายจากการถูกทำร้าย
==จูชวี่ชิง // นักมวยและโค้ชมวยไทย==
สิ่งสำคัญคือ
อย่าไปแย่งมีดจากคนร้าย
หรือพยายามข้ามผ่านอาวุธของเขา
เพื่อไปโจมตีคนร้ายแบบนั้น
เมื่อเกิดการปะทะ ต้องตั้งสติ+ป้องกันตัว ร่วมมือกันจัดการคนร้าย
โค้ชยังเตือนว่า เมื่อเกิดการปะทะขึ้น ประชาชนที่ไม่เคยผ่านการฝึก จำเป็นต้องระมัดระวังความปลอดภัย ตั้งสติ และใช้สิ่งของใกล้ตัวในการป้องกันตนเอง หรือร่วมมือกับผู้โดยสารคนอื่นเพื่อให้มีกำลังมากขึ้นในการตอบโต้กับคนร้าย