ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาในอัตรา 35% ขณะที่ บราซิลถูกปรับขึ้นจาก 10% เป็น 50% โดยผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามาตรการดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อทั้งสองฝ่ายและอาจทำให้บราซิลยุติการส่งออกกาแฟไปยังสหรัฐฯ ด้านประธานาธิบดีบราซิลระบุว่า จะพยายามเจรจาก่อน หากตกลงกันไม่ได้ บราซิลก็พร้อมจะตอบโต้กลับ ด้วยการขึ้นภาษีสหรัฐฯ 50% เช่นเดียวกัน
สหรัฐฯ พึ่งกาแฟบราซิล ภาษีสูงอาจทำให้การนำเข้าสะดุด
เมื่อวานนี้ (10 ก.ค. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาในอัตรา 35% ขณะที่บราซิลถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 50% ซึ่งอาจส่งผลให้ราคากาแฟและน้ำส้มคั้นในตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากหนึ่งในสามของกาแฟและครึ่งหนึ่งของน้ำส้มคั้นในสหรัฐฯ ล้วนนำเข้ามาจากบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตกาแฟ น้ำส้มคั้นและน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้าน ลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล วิจารณ์ว่า การที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีฝ่ายเดียวเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ด้วยกำลังการผลิตกาแฟในประเทศที่จำกัด ผลผลิตส้มก็ลดลงจากปัญหาโรคระบาด ทำให้สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศในระดับสูง ดังนั้น การปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้ ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคในสหรัฐฯ