ทรัมป์ลงพื้นที่ตรวจงาน ศูนย์กักขังผู้อพยพ "Alligator Alcatraz"

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เดินทางลงพื้นที่รัฐฟลอริดา เพื่อเยี่ยมชมศูนย์กักกันผู้อพยพชั่วคราว "Alligator Alcatraz" ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ เป็นสถานจองจำที่เต็มไปด้วยจระเข้และงูเหลือม โดยทรัมป์เผยว่า "การเนรเทศ" คือหนทางเดียวที่จะออกจากศูนย์นี้ นอกจากนี้ยังเผยว่า ในอนาคตอาจมีการสร้างศูนย์กักกันในลักษณะเดียวกันนี้เพิ่มขึ้นอีก

ศูนย์กักขังผู้อพยพ ติดตั้งเต็นท์และรถพ่วงเสร็จใน 8 วัน

กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) ร่วมมือกับรัฐฟลอริดา สร้างศูนย์กักกันผู้อพยพ "Alligator Alcatraz" บนรันเวย์สนามบินร้างในเขตทุ่งหญ้าหนองน้ำขนาดใหญ่ของรัฐฟลอริดา โดยใช้เวลาเพียงแปดวันเท่านั้นสถานกักกันแห่งใหม่นี้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปีละ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อกักขังผู้อพยพผิดกฎหมาย โดยระยะแรกจะเปิดใช้งานจำนวน 5,000 เตียง ครึ่งหนึ่งของความจุทั้งหมด

ทรัมป์กล่าวใครอยากหนีต้องผ่านด่านงูเหลือมกับจระเข้ก่อน

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงว่า ใครอยากหนี ต้องผ่านด่านงูเหลือมกับจระเข้ให้ได้ก่อน

==โดนัลด์ ทรัมป์ // ประธานาธิบดีสหรัฐฯ==
คุณรู้ไหมว่า
โอกาสของคุณมีเพียง 1% เท่านั้น
และนี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย

ทรัมป์หวังสร้างศูนย์เพิ่ม ชี้ทางออกเดียวของผู้ถูกกักกันคือการเนรเทศ

ศูนย์กักกันผู้อพยพ "Alligator Alcatraz" ตั้งอยู่ใกล้แหล่งที่อยู่อาศัยของจระเข้ ซึ่งคาดว่ามีจำนวนราว 200,000 ตัว ทรัมป์ระบุว่า วิธีเดียวที่จะออกจากที่นี่ได้ คือการถูกเนรเทศออกนอกประเทศเท่านั้น โดยเขาหวังว่าจะได้เห็นศูนย์กักกันเช่นนี้เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

องค์กรประชาสังคมฟ้อง ศูนย์ตั้งในเขตอนุรักษ์+พื้นที่สงวนชนพื้นเมือง

อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากมารวมตัวกันบริเวณเส้นทางสู่ศูนย์กักกัน "Alligator Alcatraz" เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยชูป้ายประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะเดียวกัน ศูนย์กักกันดังกล่าว ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์และพื้นที่สงวนของชนพื้นเมือง ส่งผลให้ขณะนี้มีองค์กรสิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 2 แห่ง ยื่นฟ้องต่อรัฐบาลกลางและรัฐฟลอริดาแล้ว