กระแสการประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในสหรัฐฯ แพร่กระจายไปทั่ว โดยเฉพาะที่ลอสแอนเจลิสซึ่งเกิดการปะทะรุนแรงและเป็นที่จับตามองมากที่สุด ทั้งนี้เดิมทีเป็นการชุมนุมอย่างสันติ แต่สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปหลังจากตำรวจใช้แก๊สน้ำตากับกระสุนยางเข้าสลายฝูงชน อย่างไรก็ตามท่าทีของทรัมป์กลับแข็งกร้าวขึ้น โดยเขาสั่งขยายการกวาดล้างผู้อพยพผิดกฎหมาย และยังเตรียมฟื้นฟูเรือนจำที่ถูกปิดไว้ให้กลับมาใช้งานอีกครั้ง
"No Kings Day" แคมเปญต่อต้านรัฐบาลทรัมป์ ปชช.แน่นถนน
ก่อนหน้าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบจากการประท้วงต่อต้านการจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมายในลอสแอนเจลิส หลายพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ ก็ปรากฎมีแคมเปญ "No Kings Day" ต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว
==จางฮั่น//ผู้สื่อข่าว PTS ไต้หวัน==
เฉพาะที่แคลิฟอร์เนียใต้ก็มีการจัดการชุมนุม
"No Kings Day" ถึง 14 จุด ขณะที่ลอสแอนเจลิส
ซึ่งเพิ่งเผชิญเหตุความไม่สงบ ก็ได้รับการจับตา
เป็นพิเศษในเรื่องการรักษาความปลอดภัย
กระแสต้านจับกุมผู้อพยพผิด กม. ยังเดือด ม็อบใหม่ผุดต่อเนื่อง
กระแสคัดค้านการจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมายยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ตลอดปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงได้ระดมกำลังและจัดกิจกรรมชุมนุมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
==ผู้ชุมนุมชาวละตินอเมริกัน==
เราต้องการแสดงให้รัฐบาลเห็นว่า
ที่สหรัฐฯ เรามีเสรีภาพ
ในการประท้วงและแสดงความเห็น
ซึ่งสิทธิเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
จากม็อบสันติสู่เหตุจลาจล ตร.ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม
การชุมนุมประท้วงต่อต้านการจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมายในนครลอสแอนเจลิสมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก และได้ลุกลามจนเกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุม โดยหลังการชุมนุมดำเนินไปได้ประมาณหกชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม ส่งผลให้ประชาชนแตกตื่นและวิ่งหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้ทั้งหมด 35 ราย
ทรัมป์ลั่น! แผนไล่ผู้อพยพผิด กม. ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยประกาศเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการจับกุมและขับไล่ผู้อพยพผิดกฎหมายหลายล้านคน ในเมืองสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ลอสแอนเจลิส ชิคาโก และนิวยอร์ก ตามแผนการขับไล่ผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยทรัมป์ระบุว่า เมืองเหล่านี้ใช้ผู้อพยพผิดกฎหมายเพื่อทุจริตในการเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ICE) ถูกนักการเมืองของพรรคเดโมแครตคุกคามทุกวัน
ทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำร้าง แก้ปัญหาเรือนจำไม่พอ
นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ยังร่วมมือกับบริษัทเรือนจำเอกชน โดยไม่ผ่านกระบวนการประมูล เพื่อเปิดใช้งานเรือนจำร้าง 20 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากในกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม