ปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรในเมืองหยุนหลินยังคงรุนแรง จากภาวะประชากรสูงอายุ ทำให้มีการจ้างงานแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ขณะที่ ระเบียบกระทรวงแรงงานระบุว่า หากนายจ้างว่าจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย จะถูกปรับ 150,000 เหรียญไต้หวันต่อแรงงานหนึ่งคน ซึ่งโดยส่วนมากนายจ้างในภาคเกษตรมักจ้างแรงงาน 4-5 คน จึงต้องเผชิญโทษปรับสูงหลายแสน เพื่อบรรเทาภาระของเกษตรกร เทศบาลหยุนหลินจึงปรับเกณฑ์การคิดค่าปรับเป็นรายคดีแทน โดยคิดขั้นต่ำคดีละ 150,000 เหรียญไต้หวัน
ขาดแคลนแรงงานหนัก งานบางอย่างเครื่องจักรยังแทนที่คนไม่ได้
ต้นหอมที่เพิ่งเก็บเกี่ยว ยังคงต้องอาศัยแรงงานคนในการคัดแยกและจัดเรียงก่อนส่งขาย เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
==เกษตรกรผู้ปลูกต้นหอมในเมืองหยุนหลิน==
ต้องใช้แรงงานคนทั้งหมด
หากไม่จัดการให้เรียบร้อยก็จะมีดินติดอยู่
ต้นหอมเหล่านี้ยังรอการจัดการอยู่
ตอนนี้ยังคืบหน้าไปไม่ถึงไหนเลย
ขาดแคลนแรงงานหนัก ปี 67 หยุนหลิน พบ รง. ผิด กม. เกินร้อยคน
ไม่เพียงแต่งานเก็บต้นหอมเท่านั้น สวนถั่วในบริเวณนี้ก็จำเป็นต้องใช้แรงงานคนในการคัดถั่วทีละฝักเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เนื่องจากหยุนหลินเป็นเมืองเกษตรกรรมขนาดใหญ่ ภาวะประชากรสูงอายุส่งผลให้งานภาคเกษตรรวมถึงภาคการผลิตดั้งเดิมในพื้นที่ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา ทางเทศบาลได้สั่งปรับรวมทั้งสิ้น 143 รายการ เนื่องจากนายจ้างในพื้นที่ ว่าจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย จำนวนมากกว่า 100 คน
==จางซื่อจง//ผอ. สำนักแรงงานและเยาวชน เทศบาลเมืองหยุนหลิน==
ตามกฎหมายการจ้างงาน หากเกษตรกร
ว่าจ้างแรงงานต่างชาติที่ไม่ได้รับอนุญาต
จะมีโทษปรับตั้งแต่ 150,000-750,000 TWD
ปรับนายจ้าง จ้าง รง. ต่างชาติ ผิด กม. หยุนหลินปรับเป็นรายคดี
สำนักแรงงานและเยาวชนระบุว่า ตามระเบียบของกระทรวงแรงงาน หากนายจ้างว่าจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย จะถูกปรับ 150,000 เหรียญไต้หวันต่อแรงงานหนึ่งคน ส่วนแรงงานจะถูกส่งกลับประเทศ พร้อมถูกปรับ 30,000 เหรียญไต้หวัน เนื่องจากพื้นที่เกษตรกรรมมักจ้างแรงงานครั้งละ 4–5 คน ซึ่งอาจต้องเผชิญโทษปรับสูงหลายแสน ทางเทศบาลเมืองหยุนหลิน จึงใช้จำนวนคดีเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา โดยกำหนดโทษปรับขั้นต่ำของแต่ละคดีไว้ที่ 150,000 เหรียญไต้หวัน พร้อมทั้งขอความร่วมมือนายจ้างให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการยื่นขออนุญาต เพื่อป้องกันการฝ่าฝืนกฎหมาย