เมื่อวานนี้ (12 พ.ค. 68) จีนได้เผยแพร่สมุดปกขาว "ความมั่นคงของชาติจีนในยุคใหม่" ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า จะไม่มีการให้คำมั่นว่าจะไม่ใช้กำลังอาวุธต่อไต้หวันอย่างแน่นอน นักวิชาการกล่าวว่า เนื้อหาในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการขยายขอบเขตและการเพิ่มความเข้มข้นในการใช้กำลังต่อไต้หวัน ขณะที่คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ของไต้หวันมองว่า เนื้อหาในครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่
จีนประกาศ สมุดปกขาวด้านความมั่นคง 22,000 คำ โยงไต้หวัน
ล่าสุดจีนเผยแพร่สมุดปกขาว "ความมั่นคงแห่งชาติจีนในยุคใหม่" โดยมีความยาวประมาณ 22,000 คำ ซึ่งมีเนื้อหาหลายส่วนที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน เน้นย้ำหลักการ "จีนเดียว" และ "ฉันทามติปี 1992" พร้อมคัดค้านการแยกตัวเป็นอิสระของไต้หวัน รวมถึงการต่อต้านการแทรกแซงจากภายนอก และจะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อต่อสู้กับกลุ่มที่สนับสนุนการแยกตัวของไต้หวัน ทั้งนี้อาจมีการใช้กำลังทางทหารและหรือมาตรการที่จำเป็นในทุกรูปแบบ
นักวิชาการชี้ จีนยกระดับเพิ่มมาตรการกดดันไต้หวัน
นักวิชาการตั้งข้อสังเกตว่า สาระสำคัญของสมุดปกขาวฉบับนี้ จีนได้แสดงให้เห็นถึงการขยายแนวทางในการต่อต้านการแยกตัวของไต้หวัน จากเดิมที่เน้นเพียงการใช้กำลังทางทหาร ไปสู่การใช้ "วิธีที่ไม่สันติ" เช่น การส่งเรือประมงจำนวนมากมาก่อกวน การซ้อมรบปิดล้อมไต้หวัน ทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ เป็นต้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า จีนได้เพิ่มทั้งขอบเขตของปฏิบัติการ ความรุนแรง และความหลากหลายของวิธีการที่ใช้ในการกดดันไต้หวัน
==หวังจื้อเซิ่ง//เลขาธิการสมาคม Asia-Pacific Elite Interchange Association==
นอกจากการใช้กำลังทางทหารแบบเดิมแล้ว
ในเอกสารฉบับนี้ยังได้กล่าวถึง
วิธีการอื่นๆที่ไม่อยู่ในกรอบของสันติภาพด้วย
MAC ชี้ เนื้อหาในสมุดปกขาวจีนไม่มีอะไรแปลกใหม่
รายงานล่าสุดจากคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ชี้ว่า จีนพยายามผลักดันหลักการ "จีนเดียว" ในเวทีโลก ทั้งนี้ เนื้อหาที่ระบุในสมุดปกขาว "ความมั่นคงแห่งของชาติจีนในยุคใหม่" ยังคงเป็นสิ่งที่เคยปรากฏในเอกสารก่อนหน้าโดยไม่มีสาระใหม่เพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญ
==เหลียงเหวินเจี๋ย//โฆษกคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ (MAC)==
ดูเหมือนว่าจะเป็นนโยบายต่อเนื่องจากเดิม
จีนเสนอมาตรการส่งเสริมการค้า หวังดึงนักธุรกิจไต้หวัน
นอกจากนี้ เพื่อรับมือกับสงครามภาษี จีนได้พยายามดึงดูดผู้ประกอบการไต้หวัน โดยมณฑลฝูเจี้ยนได้ประกาศนโยบาย “เขตตัวอย่างเพื่อพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบ” ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือและยกระดับผู้ประกอบการชาวไต้หวัน