เทียบนโยบาย รง.ต่างชาติไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี ญี่ปุ่นขยายวีซ่าทำงาน
รายงานเปรียบเทียบนโยบายแรงงานต่างชาติของไต้หวัน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งจัดทำโดยมูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนไต้หวัน-เอเชีย (TAEF) ระบุว่า ญี่ปุ่นใช้โครงการ “เด็กฝึกงานด้านเทคนิค” เพื่อเติมเต็มกำลังแรงงานในประเทศ แต่เนื่องจากห้ามเปลี่ยนงาน จึงถูกวิจารณ์เรื่องการทารุณกรรมแรงงาน ล่าสุด ญี่ปุ่นเสนอแนวทางขยายวีซ่าทำงานและอนุญาตให้นำครอบครัวมาด้วย เพื่อปรับปรุงสถานการณ์นี้
มูลนิธิ TAEF ชี้ รง.ต่างชาติในไต้หวัน ส่วนใหญ่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มูลนิธิเพื่อการแลกเปลี่ยนไต้หวัน-เอเชียระบุว่า แรงงานต่างชาติในไต้หวัน ส่วนใหญ่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากเรียนรู้แนวทางจากญี่ปุ่นแล้ว เกาหลีใต้ยังได้ใช้ระบบการจ้างตรง ทำให้ศูนย์การจ้างตรงมีกฎหมายรองรับ และจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะในประเทศต้นทาง เพื่อเชื่อมโยงนายจ้างและแรงงานต่างชาติ ซึ่งช่วยลดค่าธรรมเนียมการสรรหาแรงงานได้อย่างมาก
==หลิงอี๋หัว // ซีอีโอ Work Better Innovations==
เราสามารถเรียนรู้ระบบการหาแรงงานของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
แล้วดูว่าเราจะปรับปรุงตรงไหนได้บ้าง
บางทีในอนาคตแรงงานอาจจะบอกว่า อยากมาไต้หวันมากกว่า
เพราะสามประเทศนี้ล้วนขาดแคลนแรงงาน
นายจ้างไม่เห็นด้วยรับผิดชอบค่าธรรมเนียม เพื่อลดการถูกเอาเปรียบ
มูลนิธิTAEFเน้นย้ำว่า ตามหลักการ 'นายจ้างเป็นผู้จ่าย' ค่าธรรมเนียมการจัดหางานจึงไม่ควรให้แรงงานต่างชาติเป็นผู้จ่าย แต่ควรเป็นหน้าที่ของนายจ้าง จึงจะสามารถลดการแสวงประโยชน์ แต่กลุ่มนายจ้างไม่เห็นด้วย
==จางเหิงเยี่ยน // ประธานสมาคมครอบครัวผู้พิการและนายจ้างผู้อนุบาลนานาชาติไต้หวัน==
พวกเราก็ไม่เห็นด้วยว่า
พวกเราต้องจ่ายเงิน
ค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าหนังสือเดินทางให้เขา
แรงงานต่างชาติเลือกที่จะไปต่างประเทศเอง
พวกเขามีค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่จำเป็นบางอย่างที่ต้องจ่าย
รง.ต่างชาติในญี่ปุ่น-เกาหลีมาจากหลากหลายที่ ไต้หวันอ่อนแอในศึกชิง รง.
ข้อมูลจากมูลนิธิ TAEFเผยว่า ปัจจุบันประเทศต้นทางของแรงงานต่างชาติในไต้หวัน มีทั้งหมด 5 ประเทศ ซึ่งรวมถึงอินเดียที่เพิ่มเข้ามาใหม่ แต่ญี่ปุ่นมีถึง 15 ประเทศ และเกาหลีใต้ 16 ประเทศซึ่งค่อนข้างกว้างขวาง ทำให้ไต้หวันดูเหมือนจะเสียเปรียบในศึกชิงแรงงานแรงงานต่างชาติ