สงครามภาษีกระทบท่องเที่ยว? นทท.อาจมาไต้หวันน้อยลง

ปีนี้กระทรวงคมนาคมไต้หวันตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคนเยือนไต้หวัน แต่จากผลกระทบของสงครามภาษี ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไต้หวันอาจได้รับผลกระทบตามไปด้วย ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงเป็นอย่างมาก

ผู้ประกอบการลดการผลิต ให้ พนง.ลาหยุดโดยไม่มีค่าจ้าง

นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มมีผลบังคับใช้ในเวลา 12.00 น.ของวันนี้ (9 เม.ย. 68) ตามเวลาไต้หวัน ซึ่งไต้หวันถูกสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีนำเข้า 32% ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรมภายในประเทศเริ่มลดออร์เดอร์การผลิตและออกมาตรการให้พนักงานลาหยุดโดยไม่มีค่าจ้าง กระทรวงเศรษฐการเผยว่าจะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในด้านต่างๆตามความเหมาะสม ทั้งนี้รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือ 88,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ขณะเดียวกันหลายวันมานี้ดัชนีหุ้นไต้หวันร่วงลงอย่างต่อเนื่อง แม้วันนี้กองทุนพยุงเสถียรภาพการเงินแห่งชาติ (National Financial Stabilization Fund) จะเข้าแทรกแซงเพื่อพยุงตลาดหุ้นแต่ยังไม่อาจหยุดปรากฏการณ์ดังกล่าวได้

คาดไตรมาสแรก นทท.อาจไม่เป็นไปตามเป้า 2.1 ล้านคน

สงครามภาษีของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อทั่วโลก รวมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือ ก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวไต้หวันคาดการณ์ว่า ในไตรมาสแรกปีนี้ ไต้หวันจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามามากกว่า 2.1 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ถ้าหากสงครามภาษีส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมถดถอย หรือมีการลาหยุดโดยไม่มีค่าจ้าง คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมถึงชาติอาเซียนอาจลดลง

รมว.คมนาคม: ต้องประเมินผลกระทบ ทบทวนนโยบายการตลาด

กระทรวงคมนาคมยอมรับว่า ปัจจุบันยังไม่สามารถประเมินผลกระทบจากสงครามภาษีได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามไต้หวันต้องทบทวนนโยบายการตลาด ไม่เพียงต้องเข้าถึงจิตใจนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ยังต้องเพิ่มจำนวนจุดให้บริการในต่างประเทศ และพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้มีคุณภาพมากขึ้น

==เฉินซื่อไข่//รมว.คมนาคมไต้หวัน==
เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ อัตราฟื้นตัวเราค่อนข้างช้า
เราควรเสริมสร้างส่วนนี้ให้แข็งแกร่งขึ้น
เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งเป้าจะเที่ยวเอเชีย
ไต้หวันกลับไม่ใช่ตัวเลือกแรก และไม่ได้อยู่ในตัวเลือกอันดับต้นๆด้วย

เที่ยวบิน ตปท.ฟื้นตัว 73% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด

ฤดูร้อนของปีนี้ จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศและเที่ยวบินระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันฟื้นตัวแล้ว กว่า 73% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด โดยท่าอากาศยานานาชาติเถาหยวนได้เพิ่มเส้นทางบินใหม่ไปยังเมืองต่างๆ 5 เส้นทาง เช่น โออิตะและโกเบ ประเทศญี่ปุ่น และโบฮอลประเทศฟิลิปปินส์เป็นต้น ขณะที่เกาสงและไทจงก็จะเพิ่มจุดหมายปลายทางใหม่อีก 6 แห่ง เช่น เมืองญาจางประเทศเวียดนาม และเกาะเชจูประเทศเกาหลีใต้เป็นต้น