เดือนหน้าไต้หวันจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส.ส.วีรภัทร คันธะ จากพรรคก้าวไกล เดินทางเยือนไต้หวัน เขามีความสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ระหว่างไต้หวันและไทย และเชื่อว่าหลังโควิด 19 จะได้เห็นความร่วมมือระหว่างสองประเทศมากขึ้น
ส.ส.วีรภัทร เยือนไต้หวัน ปูทางความร่วมมือ อก.สร้างสรรค์ไต้หวัน-ไทย
นับเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ที่ ส.ส.วีรภัทร คันธะ จากพรรคก้าวไกล เดินทางมาเยือนไต้หวัน โดยตั้งใจเดินทางมาเยือนไต้หวันในช่วงก่อนการเลือกตั้งเพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ ส.ส. ไต้หวัน ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาเขาให้ความสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกล่าวว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ในประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น จากการออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงละคร ล้วนได้รับความนิยมอย่างสูงจากตลาดทั่วโลก ดังนั้นการมาไต้หวันครั้งนี้ ก็อยากจะมองหาความเป็นไปได้ในการร่วมมือระหว่างสองประเทศ
==วีรภัทร คันธะ// ส.ส.พรรคก้าวไกล==
โดยเฉพาะเรื่องของ Soft power นะครับ ซึ่งช่วงนี้เมืองไทยจะนิยมใช้คำนี้เป็นพิเศษ ซึ่งในมิติของ Soft power ที่รัฐบาลไทยกำลังต้องการจะผลักดัน คำนี้เนี่ยมันก็คือการเพิ่มมูลค่าของสินค้านะครับ ผ่านความคิดสร้างสรรค์ เช่นการสร้างแบรนด์ การสร้างมาสคอตหรือว่าการใช้ศิลปะการใช้วัฒนธรรมเข้ามาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า
จัดอันดับคำค้นหาการไปเที่ยว ตปท. ของคนไทย ไต้หวันอยู่อันดับที่ 1
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวของสื่อไทยช่อง One 31 ระบุว่า จากการจัดอันดับคำค้นหาในหมวดการท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทย ไต้หวันอยู่ในอันดับที่ 1 ซึ่งไม่เพียงแซงหน้าประเทศญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ แต่ยังได้รับความนิยมมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและมาเลเซียด้วย ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นได้ชัดว่ากลุ่มคนหนุ่มสาวของประเทศไทยชื่นชอบการเดินทางมาเที่ยวไต้หวันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย ส.ส.วีรภัทร คันธะ ก็ได้สังเกตเห็นในระหว่างการเดินทางครั้งนี้ว่ามีคนไทยเดินทางมาเที่ยวไต้หวันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
==วีรภัทร คันธะ// ส.ส.พรรคก้าวไกล==
แล้วก็ช่วงนี้ผมก็เห็นว่า ไม่ว่าเดินไปที่ไหนก็ได้ยินเสียงภาษาไทยค่อนข้างเยอะนะครับ ผมคิดว่าตอนนี้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นหลังจากวิกฤตของโควิด
ส.ส.ไทย: ไต้หวัน-ไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด จะไม่ ปป. ตามผลการเลือกตั้ง
การเดินทางมาเยือนไต้หวันครั้งนี้ ส.ส.วีรภัทร คันธะ เนื่องจากใกล้ถึงการเลือกตั้งใหญ่ของไต้หวัน เขาจึงได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย เขามองว่า ไต้หวันและไทยมีการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าที่ใกล้ชิด และยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ดังนั้นไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในอนาคตก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง