ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินทางเยือนเวียดนาม ยืนยันว่าได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีหลี่เฉียงของจีน ในระหว่างการประชุมสุดยอด G20 ในอินเดียที่ผ่านมา ไบเดนชี้ว่า ความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่จีนเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ยังไม่สามารถเร่งการรุกรานไต้หวันได้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าวานนี้เครื่องบินจีน 13 ลำบินก่อกวนไต้หวันและพบเรือซานตงในช่องแคบไต้หวัน
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเดินทางเยือนกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เปิดเผยว่าในระหว่างการประชุมสุดยอด G20 ในอินเดียที่ผ่านมา เขาได้พบกับหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ซึ่งเป็นตัวแทนของสี จิ้นผิง และถือเป็นการประชุมระดับสูงสุดระหว่างสหรัฐฯ และจีนใน 10 เดือนที่ผ่านมา ไบเดนชี้ให้เห็นว่าความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่จีนเผชิญอยู่ในปัจจุบันทำให้นายสีจิ้นผิงยุ่งมากและไม่สามารถเร่งการรุกรานไต้หวันได้
==โจ ไบเดน // ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ==
เราคิดว่าจีนกำลังเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจในตอนนี้
แต่ไม่คิดว่าสิ่งนี้ (ปัญหาทางเศรษฐกิจ) จะ
นำไปสู่การรุกรานไต้หวันของจีน ในทางกลับกัน
ศักยภาพของจีนอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เครื่องบินจีน 13 ลำบินก่อกวนไต้หวัน พบเรือซานตงในช่องแคบไต้หวัน
อย่างไรก็ตามจีนยังคงข่มขู่ไต้หวันต่อเนื่องด้วยเครื่องบินและเรือในช่วงเช้าวันที่ 11 กันยายน เรือบรรทุกเครื่องบินซานตงปรากฏตัวอีกครั้งในช่องแคบไต้หวัน(และอยู่ห่างจากเอ๋อหลวนปี๋ประมาณ 111 กิโลเมตร) ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเป็นจุดประสงค์ทางการเมืองมากกว่านัยทางการทหาร รวมถึงพยายามยั่วยุและสร้างแรงกดดัน
==ซูจื่อหยุน //ผอ.ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ สถาบันวิจัยด้านกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติ==
นี่คือสิ่งที่จีนมีมาโดยตลอด
70% คือการเมือง 30% การทหาร
นักวิชาการสหรัฐฯ : หากเกิดสงคราม สหรัฐฯ จะช่วยปกป้องไต้หวันแน่นอน
จอห์น เมียร์ไชเมอร์ ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยชิคาโกเดินทางมาไต้หวันเพื่อเข้าร่วม "การประชุมสุดยอดภูมิรัฐศาสตร์" กล่าวในการปราศรัยว่า หากเกิดสงครามระหว่างทั้งสองฝ่าย กองทัพสหรัฐฯ จะต้องช่วยปกป้องไต้หวันอย่างแน่นอน ด้านกองทัพจีนที่ขาดประสบการณ์การรบและข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ จึงเป็นการยากที่จะโจมตีไต้หวัน เว้นแต่ปัจจัยทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลง เช่น ไต้หวันประกาศเอกราช มิฉะนั้นโอกาสเกิดสงครามในช่องแคบไต้หวันก็ไม่สูงนัก