คอของหินเศียรราชินีที่เหย่หลิ่วเล็กลง คาดดูแลไม่ดีพอ
หินเศียรราชินีในอุทยานธรณีเหย่หลิ่ว กำลังเผชิญวิกฤตที่อาจหักโค่นลงในไม่ช้านี้ หลังพบส่วนคอเล็กลงจากการกัดกร่อนของลม โดยตั้งแต่ปี 2006 ถึง 2017 เล็กลง 11 ซม. ซึ่งทางหน่วยงานดูแลสถานที่ได้จัดเวรยามบำรุงรักษา พร้อมวางหินล้อมรอบห้ามเข้าใกล้ แต่กรรมการสภาตรวจสอบตั้งข้อสงสัยว่า มาตรการบำรุงรักษาที่มีอยู่ไม่ดีพอ
จาง อู่ชิว (張武修) //กรรมการสภาตรวจสอบ ระบุว่า เห็นถึงประสิทธิผลของกาบำรุงรักษาแบบนี้ แค่มองด้วยตาเปล่าเห็นได้ว่ามีการป้องกัน แต่จริงๆ แล้วข้ามไปได้ง่ายมาก วางหินส่วนหนึ่ง แล้วเขียนบนหินอย่างชัดเจนว่า ห้ามข้าม แล้วก็วาดเส้นสีแดงลงไป ตามปกติแล้ว ไม่น่าจะพ่นสีลงไปส่งเดชได้นะ แต่การป้องกันด้วยวิธีนี้ เพียงพอไหม เห็นได้ชัดเจนว่าไม่เพียงพอ
กรรมการสภาตรวจสอบ ระบุว่า อุทยานธรณีเหย่หลิ่วแห่งนี้รับนักท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านคนต่อปี สร้างมูลค่าเศรษฐกิจการท่องเที่ยวท้องถิ่น 2000 -3000 ล้านเอ็นที โกยรายได้จากค่าผ่านประตูกว่า 200 ล้านเอ็นทีต่อปี แต่กลับไม่ทุ่มงบประมาณในการบำรุงรักษาหินเศียรราชินี
จาง อู่ชิว (張武修) //กรรมการสภาตรวจสอบ ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็อาจหักโค่นลงมาได้ คนในท้องถิ่นจำนวนมากบอกว่า ถ้าเกิดหักโค่นลงมา
เศรษฐกิจก็น่าจะโค่นลงตามไปด้วย
สภาตรวจสอบมีมติเมื่อวันที่ 11 ที่ผ่านมา ให้กรมการท่องเที่ยวทบทวนแก้ไขมาตรการบำรุงรักษาเศียรราชินี ด้านสำนักงานการท่องเที่ยวเขตชายฝั่งภาคเหนือระบุว่า จะใช้ของเทียมมาซ่อมเศียรราชินีดี หรือจะให้เป็นไปตามกฎของธรรมชาติดี จะทบทวนหลังได้รับรายงานแล้ว