ปธน. โจ ไบเดน พบหารือกับ ปธน. สีจิ้นผิง เมื่อ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่อินโดนีเซียนานกว่า 3 ชม. สีฯ ย้ำไต้หวันเป็นเส้นแดงที่ข้ามไม่ได้ในความสัมพันธ์จีน- สหรัฐฯ ส่วนไบเดนย้ำเสถียรภาพช่องแคบไต้หวัน
การพบหารือระหว่างสองผู้นำมีความละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์ 3 ฝ่าย สหรัฐฯ - จีน - ไต้หวัน ซึ่งนักวิชาการไต้หวันมีความเห็นว่า การพบกันครั้งนี้เป็นการเสริมภูมิคุ้มกัน ไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เห็นด้วยรื้อฟื้นความร่วมมือรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ รมว. กต. สหรัฐฯ เตรียมเยือนจีน ซึ่งล้วนเป็นผลเชิงบวกทั้งสิ้น แต่ประเด็นไต้หวัน ยังคงเป็นประเด็นท้าทายต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ติงซู่ฟ่าน ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ บัณฑิตศึกษาเอเชียตะวันออก ม.แห่งชาติเจิ้งจื้อ ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนก็กลับไปที่จุดเดิม หมายความว่าต้องพยายามควบคุมความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมิให้ลุกลามออกไป การพบกันคราวนี้ เป้าหมายสำคัญที่สุดก็คือสิ่งนี้”
หลี่ต้าจง รศ. ประจำบัณฑิตศึกษากิจการระหว่างประเทศและยุทธศาสตร์ ม.ตัมกัง ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ประเด็นไต้หวันเป็นประเด็นที่มีความสำคัญยิ่งของทั้งสองฝ่าย เป้าหมายที่สำคัญที่สุดก็คือการเลี่ยงการตัดสินใจผิดพลาด จนเกิดลักลั่นขึ้น หลีกเลี่ยงมิให้การแข่งขันกลายเป็นการปะทะกัน เลี่ยงสงครามที่ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดขึ้น”
เมื่อการพบหารือกันระหว่างสองผู้นำปิดฉากลง ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันได้แสดงจุดยืนยินดีที่ ปธน. ไบเดนย้ำนโยบายเดิมของตน คัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานะปัจจุบันโดยพลการและพฤติกรรมบ่อนทำลายเสถียรภาพและสันติภาพบนช่องแคบไต้หวัน ชี้ชัดอีกครั้งถึงฉันทามติโลกที่ต้องการเสถียรภาพและสันติภาพบนช่องแคบไต้หวัน