ไต้หวันเล็งเปิดให้ฟาร์มโคนมว่าจ้างแรงงานข้ามชาติ

   ภาคการเกษตรของไต้หวันประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก โดยเฉพาะฟาร์มโคนม หาคนงานได้ยากที่สุด นอกจากต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่ตี 4 ทุกวันแล้ว สภาพแวดล้อมการทำงานยังสกปรกและอันตราย อีกทั้งต้องทำงานตลอดทั้งปี 365 วันโดยไม่มีวันหยุด ยิ่งทำให้ไม่มีใครอยากทำ ด้วยเหตุนี้เองคณะกรรมการการเกษตรไต้หวันจึงวางแผน เปิดอนุญาตให้ภาคการเกษตรสามารถว่าจ้างแรงงานข้ามชาติได้ โดยฟาร์มโคนมเป็นหนึ่งในกิจการที่ได้รับอนุญาต

    ในขั้นแรกนี้ คณะกรรมการการเกษตรไต้หวันวางแผนเปิดให้นำเข้าแรงงานข้ามชาติ 400 คน โดยจะจัดสรรให้แก่ฟาร์มที่เลี้ยงโคนมตั้งแต่ 80 ตัวขึ้นไป และต้องลงทะเบียนว่าจ้างแรงงานท้องถิ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 4 คนขึ้นไป โดยต้องเอาประกันภัยแรงงานหรือประกันภาคการเกษตรให้แรงงานที่ว่าจ้างด้วย และยังมีกฎระเบียบปลีกย่อยอื่นๆอีกหลายรายการ ทำให้ฟาร์มโคนมยื่นขอว่าจ้างแรงงานข้ามชาติได้เพียงแห่งละ 1 คนเท่านั้น

   คณะกรรมการการเกษตรเปิดเผยว่า การเปิดให้ภาคการเกษตรนำเข้าแรงงานข้ามชาติมีวัตถุประสงค์เพื่อ “ชดเชย” ไม่ใช่เพื่อ “ทดแทน”  แรงงานท้องถิ่น ดังนั้นจึงกำหนดสัดส่วน แรงงานท้องถิ่นกับแรงงานข้ามชาติไว้ที่ 4 : 1 ซึ่งถือว่าผ่อนปรนจากมาตรฐานในภาคอุตสาหกรรมแล้ว

    ไต้หวันมีฟาร์มโคนมประมาณ  530 แห่ง ปัจจุบันมี 80 แห่งที่ยื่นขอนำเข้าแรงงานข้ามชาติ คณะกรรมการการเกษตรอนุมัติแล้ว 47 ราย แต่ยังต้องรอการพิจารณาอนุมัติจากกระทรวงแรงงานก่อน  คกก.การเกษตรเผยว่า แผนการนี้จะทดลองเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นจะทำการประเมินผล หวังว่าเมื่อสามารถนำเข้าแรงงานข้ามชาติได้อย่างเป็นทางการแล้ว จะช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคการเกษตรลงได้

 

 

แปลและเรียบเรียง // อัญชัน ทรงพุทธิ์